การวิจัยตลาด หรือ Market Research คือ กลยุทธ์หรือกระบวนการที่ใช้ในการสำรวจ เก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้บริโภค เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก (Insight) ให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการขาย สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้ถูกใจผู้บริโภค นอกจากนี้ การทำ Market Research ยังช่วยทำให้แบรนด์รู้ว่าลูกค้าซื้อสินค้าและบริการที่ไหนและซื้ออย่างไร ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกและตัดสินใจซื้อของลูกค้า เหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ลูกค้าซื้อและไม่ซื้อสินค้าและบริการแต่ละอย่าง เรียกได้ว่า เข้าใจเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) ในทุกๆ ขั้นตอนเลยก็ว่าได้

การทำ Market Research นั้นมีมากมายหลายวิธี แต่สำหรับวันนี้ Wisesight จะพาไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งวิธีสำคัญที่ทำให้แบรนด์มองเห็นสิ่งที่แบรนด์เป็นผ่านเสียงของผู้บริโภค นั่นคือ การทำ BRAND ANALYSIS โดยรับฟังเสียงผู้บริโภคจากสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media Listening) ซึ่งเป็นบริการจาก Wisesight ที่ช่วยตรวจสอบสุขภาพของแบรนด์ และช่วยค้นหาแนวทางในการพัฒนาสินค้าได้เป็นอย่างดี

ทำความรู้จักบริการ BRAND ANALYSIS คืออะไร

BRAND ANALYSIS คือ กระบวนการทางการตลาดที่ช่วยประเมินกลยุทธ์และวิธีการสร้างแบรนด์ของบริษัทในมิติต่างๆ เช่น ลูกค้าของธุรกิจเป็นใคร พวกเขากำลังมองหาอะไร คู่แข่งของธุรกิจกำลังทำอะไร และแบรนด์จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร โดยจะดูที่เนื้อหาในปัจจุบัน ในอดีตและผลลัพธ์ของแบรนด์แล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งการที่จะทำ BRAND ANALYSIS ให้มีประสิทธิภาพก็ต้องอาศัยทีมนักวิเคราะห์ข้อมูลที่เชี่ยวชาญและเข้าใจในการหาอินไซต์ที่แบรนด์ต้องการได้อย่างแม่นยำ พร้อมนำข้อมูลนั้นไปใช้ได้จริง

ซึ่งบริการ BRAND ANALYSIS ของ Wisesight คือ โซลูชันที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากเราจะมีทีมงานนักวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสบการณ์มากว่า 15 ปีแล้ว เรายังมีเครื่องมือและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อทีมวางแผนกลยุทธ์ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบที่ต่างกัน โดยการออกแบบรีพอร์ตให้มีเนื้อหาข้อมูลตามสิ่งที่แบรนด์ต้องการได้ พร้อมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกผ่านเสียงผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดีย ผ่านเครื่องมือที่ทันสมัยอย่าง ZOCIAL EYE และยังช่วยย่นระยะเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลให้เร็วมากขึ้นด้วยการใช้ Machine Learning, Message Optimization และ Data Pipeline ในการได้มาซึ่งข้อมูลต่างๆ ทั้งจากฝั่งแบรนด์และคู่แข่ง ทำให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย

แต่สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าการทำ BRAND ANALYSIS นั้นเป็นอย่างไร สามารถใช้หาข้อมูลอะไรได้บ้าง วันนี้ Wisesight เรามีตัวอย่างการทำ BRAND ANALYSIS เพื่อหาข้อมูลของตลาด แบรนด์ และผลิตภัณฑ์มาฝากกัน 

การทำ BRAND ANALYSIS การรับฟังเสียงผู้บริโภคจากสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media Listening)

หากจะพูดถึงสื่อที่ในปัจจุบันมีอิทธิพลและกลายเป็นแหล่งรวมข้อมูลสำหรับการทำวิจัยทางการตลาดที่มีค่ามหาศาล ก็คงจะหนีไม่พ้น “สื่อโซเชียลมีเดีย  (Social Media)” ที่ในปัจจุบันนักวิเคราะห์ข้อมูลจะต้องสกัดเอาข้อมูลเชิงลึกจากเสียงของผู้บริโภค ด้วยการใช้เครื่องมือสำหรับฟังเสียงผู้บริโภคจากสื่อโซเชียล (Social Listening Tools)  เพื่อนำมาหาวิธีการดำเนินการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ฟังว่าหัวข้อใดที่เป็นที่สนใจอยู่ในขณะนั้น แบรนด์มีชื่อเสียงอย่างไร มีคนพูดถึงแบรนด์หรือสินค้าอย่างไร ฯลฯ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการตลาด วิเคราะห์แบรนด์ หรือวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจต่อไป

บริการ BRAND ANALYSIS จึงมีการใช้ Social Media Listening อย่าง ZOCIAL EYE เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์แบรนด์และวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์มากขึ้นในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น…

  • ใช้ในการหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย 
  • ใช้เพื่อค้นหา Influencer และลูกค้าที่สนับสนุนแบรนด์
  • ช่วยในการปรับปรุงสินค้าและการบริการ
  • ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางด้านการตลาดและการทำคอนเทนต์
  • ช่วยวิเคราะห์คู่แข่งของแบรนด์
  • ป้องกัน Crisis management ให้กับแบรนด์

ตัวอย่างการทำ BRAND ANALYSIS ในธุรกิจยานยนต์

และสำหรับใครที่อยากเข้าใจวิธีการทำ Market Research และการวิเคราะห์แบรนด์มากขึ้น นี่คือตัวอย่างของการทำ BRAND ANALYSIS ที่ทำการวิเคราะห์แบรนด์และวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจรถยนต์ผ่านการใช้เครื่องมือ Social Listening โดยอ้างอิงจากข้อมูลปี 2021 ซึ่งแบรนด์และสินค้ามีการปรับปรุงไปมากแล้ว

ในรีพอร์ตนี้จะเป็นตัวอย่างของการวิเคราะห์แบรนด์รถยนต์ในภาพรวม พร้อมเจาะลึกเฉพาะรถยนต์จากแบรนด์ NISSAN และมีการวิเคราะห์ตัวผลิตภัณฑ์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ดังนี้

ตัวอย่างการวิเคราะห์ตลาดภาพรวมธุรกิจรถยนต์

จากตัวอย่างจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการพูดถึงบนโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์รถยนต์ต่างๆ โดยเก็บข้อมูลในช่วงเดือนเมษายน 2021 ผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE พบว่า มีการพูดถึงแบรนด์รถยนต์ในกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ Toyota NISSAN Honda Isuzu Mazda Suzuki Mitsubishi Ford และ MG ทั้งหมด 54,409 ข้อความ โดยมีการพูดถึง Toyota มากที่สุด คือ 18,752 ข้อความ รองลงมาคือ NISSAN 9,399 ข้อความ และ Honda 7,458 ข้อความตามลำดับ ซึ่งในรีพอร์ตนี้เราจะเน้นเจาะลึกข้อมูลของรถ NISSAN ในกลุ่ม B & B Below รุ่น NISSAN ALMERA เป็นหลัก แต่เดี๋ยวเราจะพาไปวิเคราะห์ภาพรวมของเสียงบนโซเชียลที่พูดถึงตลาดรถยนต์กันก่อนแบบพอสังเขป ดังนี้

การหา Monthly Market Sentiment

สำหรับการวิเคราะห์แบรนด์ด้วยบริการ BRAND ANALYSIS จะสามารถดู Monthly Market Sentiment หรือความรู้สึกของผู้บริโภคโดยภาพรวมของตลาดในช่วงเดือนที่ต้องการได้ แบ่งเป็น Positive Mentions (ข้อความในเชิงบวก), Negative Mentions (ข้อความในเชิงลบ) และ Question (ข้อความในเชิงคำถาม) เป็นการหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อ (Topic) ที่ทำให้เกิดข้อความในแง่ดังกล่าวนั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น ข้อความในด้านบวกจากกลุ่มแบรนด์รถยนต์ ตัวอย่างจากเพจ Honda Thailand ในกิจกรรม “คุณอยู่ทีม The City Hatchback สีอะไร พร้อมบอกเหตุผลสั้นๆ” มีข้อความที่กล่าวชื่นชมว่า สีสวย ดีไซน์สวย ขับดี ทรงสปอร์ต แรงม้ามากสุดในคลาส พวงมาลัยแม่นยำ อัตราเร่งดีมาก เป็นต้น เป็นการทำ Market Research ในแง่ของการเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่เห็นภาพค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้บริโภคคิดเห็นกับผลิตภัณฑ์ หรือแบรนด์อย่างไรบ้าง 

การหา Market Top Story

สำหรับธุรกิจที่ต้องการทำ BRAND ANALYSIS ทั้งของตนเองและคู่แข่งเพื่อหาว่า โพสต์ไหนที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในช่วงเวลาที่ทำ Market Research สามารถนำไปใช้ในการทำคอนเทนต์หรือวางกลยุทธ์ด้านการตลาดต่อไปได้ และใช้การทำ Brand Analysis ในการหาได้ เช่น

ในช่วงวันที่ 3 เมษายน 2021 โพสต์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดจะเป็นโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก Toyota Thonburi Official ที่โพสต์เกี่ยวกับ LIVE #วันเเต่งเเห่งชาติ วันนี้ เวลา 17:00 น.เป็นต้นไป เเขกรับเชิญในไลฟ์ พบกับ เอก โซว์ทรัก” (ดูต้นโพสต์ที่นี่)

ในช่วงวันที่ 6 เมษายน 2021 โพสต์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดจะเป็นโพสต์จาก Youtube ช่อง Channel MZ Crazy Cars โพสต์ “ทำไม? NISSAN ​Navara​ ปรับโฉมใหม่แต่ยอดขายแย่กว่าเก่า?” (ดูต้นโพสต์ที่นี่)

ในช่วงวันที่ 6 เมษายน 2021 โพสต์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดจะเป็นโพสต์จากเพจ ผู้บริโภค โพสต์ “ช่วงนี้ฮิตเหลือเกินไอ้ไฟแต่งโลโก้เนี่ย ไฟหรี่สีขาว พอเบรคสีแดง มันเท่แหละ แต่รู้ไหมมันแสบตาคนขับข้างหลังมากเลยนะ พอเถ้อออออออ แล้วไม่ใช่มีแค่ฟอจูนเนอร์ด้วยไง พวกรถ SUV ก็มีแต่งเกือบหมด…เห้ออออ ทุกข์ #ผู้บริโภค” (ดูต้นโพสต์ที่นี่)

ในช่วงวันที่ 10 เมษายน 2021 โพสต์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดจะเป็นโพสต์จากเพจ Honda Thailand โพสต์ กิจกรรม “คอมเมนต์ตอบคำถามว่าคุณอยู่ทีม The City Hatchback สีอะไร? พร้อมบอกเหตุผลสั้นๆ” รับตั๋วหนัง จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง”(ดูต้นโพสต์ที่นี่)

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากข้อความต่างๆ บนโซเชียลมีเดียจะพบว่า ภาพรวมของความรู้สึกของผู้บริโภคคือ Neutral 54%, Positive 24%, Negative 16% และ Question 6% โดยเรื่องที่ผู้บริโภคจะให้ความสนใจคือ 1) เรื่องทั่วไป (General) 53% 2) เรื่องผลิตภัณฑ์ (Product) 31% และ 3) เรื่องราคา (Price) 8% ในแต่ละแบรนด์จะมีสัดส่วนของการพูดถึงที่แตกต่างกัน หากนำมาเปรียบเทียบก็จะเห็นว่าแบรนด์ใดได้รับการพูดถึงมากที่สุด และเป็นในแง่มุมไหนบ้าง สิ่งนี้ช่วยทำให้เห็นแนวโน้มของภาพลักษณ์แบรนด์ในสายตาของผู้บริโภคได้ชัดเจนมากขึ้น

ตัวอย่างการวิเคราะห์แบรนด์ NISSAN

มาลงรายละเอียดแบรนด์ในมุมที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยในบทความนี้เราจะเลือกวิเคราะห์แบรนด์ NISSAN เป็นหลัก โดยเราสามารถทำ BRAND ANALYSIS ในแง่มุมต่างๆ ได้หลากหลายมิติ ยกตัวอย่างเช่น

มาดูแนวโน้มของการพูดถึงของผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดีย สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ในช่วงเวลาที่ต้องการนั้นแบรนด์ได้รับการพูดถึงในช่วงไหนมากที่สุด ในช่องทางใดบ้าง รวมถึง เป็นข้อความประเภทใดเป็นหลัก

สำหรับหัวข้อที่พูดถึงแบรนด์ NISSAN ในด้านบวกจะเป็น 4 เรื่องหลัก ได้แก่

  • ดีไซน์ภายนอก (Exterior)
  • การตัดสินใจซื้อและแนะนำต่อ (Intention and Recommend)
  • ประสิทธิภาพของแบรนด์ (Brand Performance)
  • ประสิทธฺภาพของเครื่องยนต์ (Performance) 

หัวข้อที่พูดถึงแบรนด์ NISSAN ในด้านลบจะเป็น 4 เรื่องหลัก ได้แก่

  • ดีไซน์ภายนอก (Exterior)
  • ภาพลักษณ์ภายใน (Interior)
  • ประสิทธิภาพของแบรนด์ (Brand Performance)
  • ราคา (Price)

หัวข้อที่พูดถึงแบรนด์ NISSAN ในเชิงคำถามจะเป็น 4 เรื่องหลัก ได้แก่

  • ราคา (Price)
  • การตัดสินใจซื้อและแนะนำต่อ (Intention and Recommend)
  • ประสิทธิภาพของรถยนต์ (Performance)
  • ประสิทธิภาพของแบรนด์ (Brand Performance)

จะเห็นว่า การวิเคราะห์หาแนวโน้มและการเคลื่อนไหวจากเสียงของผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดียสามารถช่วยให้แบรนด์ทราบจุดเด่น และจุดที่ควรปรับปรุงว่ามีอะไรบ้าง

ตัวอย่างการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์รถยนต์ของ NISSAN

เพื่อให้เห็น  BRAND ANALYSIS ในด้านของการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์มากขึ้น จะขอยกตัวอย่างการวิเคราะห์รุ่นรถยนต์ NISSAN ALMERA โดยเริ่มจาก…

เราสามารถใช้ ZOCIAL EYE ในการวิเคราะห์รูปแบบการใช้สื่อเพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ โดย NISSAN ALMERA จะมีการพูดถึงผ่าน Earned Media จากเพจต่างๆ (ดังภาพ) รองลงมาคือช่องทาง Owned Media และ Dark Post ตามลำดับ

โดยในช่วงเวลาที่ทำการสำรวจเมื่อนำไปเปรียบเทียบในช่วงเวลาอื่นๆ จะเห็นว่า ในช่วงเดือนมกราคมมีการพูดถึง NISSAN ALMERA ค่อนข้างมาก โดยมีสัดส่วนข้อความในเชิงบวกที่สูงด้วย ส่วนในเดือนเมษายนนั้นมีสัดส่วนของข้อความที่เป็นคำถามที่สูงขึ้น

เราสามารถเจาะลึกถึงความเคลื่อนไหวของข้อความในช่วงเดือนเมษายนว่ามีรูปแบบข้อความประเภทไหนในช่วงใดบ้าง และมาจากช่องทางใดบ้าง เพื่อดูสาเหตุที่ผู้บริโภคพูดถึงแบรนด์ เช่น ในช่วงเวลาดังกล่าว มีคนพูดถึงแบรนด์ในช่องทาง Facebook โดยมีข้อความเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ ซึ่งข้อความเชิงบวกกล่าวถึงในเรื่องของ ดีไซน์สวย เครื่องยนต์แรง น่าสนใจ สุดยอด ส่วนเชิงลบกล่าวถึง ราคาแพง ยอดจองน้อย สวยแต่รูปจูบไม่หอม เกียร์โฉมใหม่มีปัญหาเยอะ เป็นต้น

ยกตัวอย่าง โพสต์ในช่วง 2 – 5 เมษายน มีการพูดถึง NISSAN ALMERA จากเพจ รถมีปัญหา Car Complaints Thailand โดยได้ทำการแชร์ ภาพจากกลุ่ม All New NISSAN ALMERA Turbo Club ปัญหาพู่เล่หลุดช่วงเดือนธันวาคม หลังซ่อมใช้งานได้ 3 เดือน น็อตขาด (ดูต้นโพสต์ที่นี่)

ในช่วง13 – 16 เมษายน มีการพูดถึง NISSAN ALMERA จากกระทู้สอบถาม “Mazda 2 VS NISSAN ALMERA ตัวไหนสวยกว่ากันในสายตาคุณ?​”  (ดูต้นโพสต์ที่นี่)

ในช่วง 29 เมษายน มีการพูดถึง NISSAN ALMERA จาก Raceboyz Official โพสต์ “City Turbo Vs ALMERA Turbo น้าแจ่มว่าไง ฝั่งไหนดี?” (ดูต้นโพสต์ที่นี่

นอกจากนี้ยังสามารถทำการสรุปได้ว่า เสียงของผู้บริโภคในช่วงที่ทำการวิเคราะห์เป็นอย่างไร เช่น

ข้อความในเชิงบวกจาก 4 หัวข้อแรกที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในรถรุ่น NISSAN ALMERA คือ

  • ดีไซน์ภายนอก (Exterior) – ดีไซน์สวย สีสวย สวยโดนใจ
  • การตัดสินใจซื้อและแนะนำต่อ (Intention and Recommend) –  สนใจ อยากได้ อยากจัดสักคัน
  • สมรรถนะของเครื่องยนต์ (Performance) – ขับดี เกาะถนน เร่งแซงทันใจ
  • ความชื่นชอบในตัวแบรนด์ (Brand Preference) – ชอบ NISSAN ชอบ ALMERA

ข้อความในเชิงลบจาก 4 หัวข้อแรกที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในรถรุ่น NISSAN ALMERA คือ

  • ปัญหา (Defect)  – ปัญหาเรื่อง พู่เล่ 
  • บริการหลังการขาย (After Sales) – ปัญหาจุกจิกเยอะ ศูนย์บริการไม่ดี (ศูนย์หล่มสัก) อะไหล่หายาก คุณภาพอะไหล่ไม่ดี 
  • สมรรถนะของเครื่องยนต์ (Performance)  – เครื่องอืด เครื่องสั่น พวงมาลัยไม่มีน้ำหนัก ช่วงล่างไม่เฟิร์ม 
  • ความชื่นชอบในตัวแบรนด์ (Brand Preference) – สวยแต่รูปจูบไม่หอม

ข้อความในเชิงคำถามจาก 4 หัวข้อแรกที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในรถรุ่น NISSAN ALMERA คือ

  • ราคา (Price) – สอบถามราคา โปรโมชั่น สอบถามรายละเอียดการผ่อนดาวน์ 
  • การตัดสินใจซื้อและแนะนำต่อ (Intention and Recommend) – สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องการออกรถต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง 
  • ความชื่นชอบในตัวแบรนด์ (Brand Preference) – ALMERA ใหม่เป็นยังไงบ้าง, NISSAN ALMERA เปลี่ยนโฉมละหรอ 
  • สมรรถนะของเครื่องยนต์ (Performance) – เครื่องยนต์กี่ซีซี เกียร์อะไร 4-5 คน ขับขึ้นดอยชันๆ ไหวไหม ช่วงออกตัวอืดหรือเปล่า

ซึ่งข้อมูลจากการทำ BRAND ANALYSIS เพื่อทำการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เช่นนี้จะทำให้เห็นว่า ผู้บริโภคชอบอะไร ไม่ชอบอะไร สงสัยเรื่องไหน เพื่อที่แบรนด์จะได้นำทุกความคิดเห็นกลับมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีต่อไปให้ดีและสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้มากขึ้น

เริ่มต้นทำ Market Research ด้วยบริการ Brand Analysis ที่มีคุณภาพ [พร้อมตัวอย่างเคส]

โดยการปรับปรุงรถ NISSAN ALMERA รุ่นปี 2020 (ภาพซ้าย) ให้มีความสดใหม่ทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน NISSAN ALMERA รุ่นปี 2022 (ภาพขวา) โดยยังคงเน้นจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์สวย เช่น ตัวถังสีทูโทน หลังคาดำ สปอยเลอร์ท้ายดำ สเกิร์ตสีเทา ล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 15 นิ้ว มีการดีไซน์ขนาดอันกว้างขวาง มีการใส่เทคโนโลยีอย่างระบบอินโฟเทนเมนต์ NissanConnect เพื่อการใช้งานแอปฯ ผ่านจอเครื่องเสียงรถยนต์ได้ ไปจนถึงระบบความปลอดภัยต่าง ๆ รอบคันแบบ 360° SAFETY SHIELD ด้วย

สรุป

การทำ BRAND ANALYSIS เป็นอีกหนึ่งกระบวนการสำคัญที่จะช่วยทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกตามที่แบรนด์ต้องการ และนำพาธุรกิจไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยใช้ข้อมูลเป็นเครื่องนำทาง แต่การจะทำ BRAND ANALYSIS ให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากพอที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้นั้นต้องพึ่งพาเครื่องมือที่สามารถรวบรวมข้อมูลและมีทีมงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสบการณ์จึงจะสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้ตามที่คาดหวัง ซึ่งถ้าหากสนใจสามารถรับบริการให้คำปรึกษาฟรี จากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ BRAND ANALYSIS ที่นี่ได้เลย