WARROOM’ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การบริหารจัดการช่องทางสื่อสารอย่างโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว และช่วยทำให้ธุรกิจเข้าถึงทุกข้อความบนโลกออนไลน์ เช่น Facebook, Facebook inbox, Instagram, Instagram direct message, Pantip, Twitter, Email ฯลฯ ได้ในเครื่องมือเดียว

อีกทั้ง WARROOM ยังเป็นเครื่องมือที่รองรับการเชื่อมต่อ Integration ผ่านระบบ API โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบ CRM, ERP system ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้บริษัทระดับ Entetprise ที่มีทีมดูแลลูกค้าขนาดใหญ่ ให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่สามารถดูแลและตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำกว่าที่เคย 

โดยในปี 2022 นี้ ไวซ์ไซท์ได้ทำการพัฒนาขีดความสามารถของ WARROOM ให้ช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของทีมงานดูแลลูกค้าสำหรับองค์กรได้ดีมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ดังต่อไปนี้

เปิดให้ใช้งานแล้ว WARROOM Mini App พร้อมขยายโอกาสสำหรับนักพัฒนาแอปฯ

จากการที่ไวซ์ไซท์พัฒนา WARROOM มาให้เป็นศูนย์รวมของข้อมูลและการทำ CRM ได้ภายใต้ระบบเดียวมาตลอดระยะเวลาหลายปี เราพบว่า ในภาคการทำธุรกิจมักมีปัญหาในการใช้เครื่องมือสำหรับดูแลลูกค้า เนื่องจากแต่ละเครื่องมือยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในด้านการใช้งานได้ครบถ้วน ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลเดิม ๆ ซ้ำไปมาในหลายเครื่องมือ การทำงานล่าช้า จากการเปิดเครื่องมือหลายหน้าต่างเพื่อหาข้อมูลลูกค้าแค่หนึ่งราย

ไวซ์ไซท์จึงอยากที่จะช่วยลดปัญหาในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมดูแลลูกค้าสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้นด้วยการพัฒนา WARROOM Mini App SDK ฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือองค์กรที่มีแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่แล้ว สามารถนำเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้งานร่วมกันกับ WARROOM ได้ เพื่อการใช้งานเครื่องมือแบบไร้รอยต่อ โดยไวซ์ไซท์จะทำการมอบ SDK ให้นักพัฒนาสามารถนำไปใช้งานพัฒนา Mini App แล้วนำมาใช้งานบน WARROOM ได้ตามต้องการ

สามารถดาวน์โหลด SDK ได้เลยที่ : https://link.wisesight.com/MINIAPP-SDK

WARROOM Official Mini App

นอกจากนี้ ไวซ์ไซท์ของเรายังได้พัฒนา Official Mini App เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเครื่องมือต่างๆ บน WARROOM มากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับผู้ที่สนใจพัฒนาแอปพลิเคชัน ได้ทดลองใช้งาน Mini App จากทางเราก่อนได้ โดยประกอบแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ 7 รูปแบบ ดังนี้

  • Warroom Profile App : ตัวช่วยสำหรับจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าจากช่องแช็ต และสามารถเรียกดูข้อมูลลูกค้าจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ได้ง่ายมากขึ้น เช่น ประวัติการสนทนาครั้งล่าสุด เบอร์ติดต่อ และข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ ของลูกค้า 
  • FastHelp5 Profile App : เสริมความแข็งแกร่งให้กับการทำ CRM ด้วยการใช้งาน FastHelp5 ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือการทำ CRM จากประเทศญี่ปุ่นที่สามารถใช้งานบน WARROOM ได้โดยที่ไม่ต้องสลับเครื่องมือให้เสียเวลา
  • Note App : แอปพลิเคชันสำหรับการบันทึกข้อความสำคัญ เพื่อให้ทีมดูแลลูกค้าสามารถเขียนบันทึกข้อมูลได้เลยง่าย ๆ ผ่าน WAROOM โดยข้อมูลเหล่านี้จะเชื่อมต่อกับทาง Google Drive และ One Drive อัตโนมัติ
  • Tasks App : แอปพลิเคชันสำหรับการทำ To do list และจัดการภาระงานของตนเองได้เลยบนระบบ WARROOM 
  • Faq App : ลดระยะเวลาในการหาข้อมูลของทีมงานด้วย Faq App ที่พัฒนามาให้สามารถค้นหาคำถามหรือคีย์เวิร์ดที่ต้องการบน WARROOM เพื่อนำไปตอบลูกค้าได้ทันที พิเศษ! อัปเดตคำถาม-คำตอบให้ทุกบัญชีของทีมงานสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงมีตัวช่วยแบ่งชุดคำถาม-คำตอบออกเป็นหมวดหมู่ เช่น หมวดหมู่โปรโมชัน หมวดหมู่เรื่องคำถามเกี่ยวกับสินค้า ฯลฯ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บและการค้นหาข้อมูลได้อีกด้วย
  • Shopee App และ Lazada App : 2 แอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจประเภท E-Commerce ที่มีรายการซื้อ-ขายสินค้าอยู่บน Shopee และ Lazada มากมาย แต่ต้องใช้งานเครื่องมืออื่นในการดูแลและตอบข้อความของลูกค้า 2 แอปพลิเคชันนี้จึงจะเข้ามาเป็นตัวช่วยทำให้ทีมดูแลลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลสินค้าที่อยู่บน Shopee และ Lazada ผ่านหน้าจอของ WARROOM เพื่อส่งข้อมูลให้กับลูกค้าได้ในทันทีผ่านระบบของ WARROOM ได้เลย 

ข้ามขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นด้วย Automation Workflow

อีกหนึ่งปัญหาสำหรับการทำงานด้านการดูแลลูกค้า คือ การส่งต่อเคสงานให้กับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ลูกค้าทำการแจ้งปัญหาหรือสอบถามเข้ามา ซึ่งโดยปกติแล้วทีมที่ดูแลลูกค้าจำเป็นจะต้องทำการดำเนินการส่งต่อเคสต่าง ๆ หรืออาจจะต้องทำการกรอกข้อมูลเดิม ๆ เพื่อเขียนอธิบายรายละเอียดงานด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำ รวมถึงต้องทำการส่งข้อความต่อ, ติด tag แยกหมวดหมู่เรื่อง, พิจารณาปิดเคส ฯลฯ ทำให้การทำงานล่าช้า หรือในกรณีที่มีเคสวิกฤตเกิดขึ้น ทีมงานก็ไม่สามารถเข้าไปจัดการปัญหาได้ทันสถานการณ์อย่างที่ควรจะเป็น

ไวซ์ไซท์จึงได้ทำการวิเคราะห์ปัญหาและทำการพัฒนา Automation Workflow ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติที่ช่วยเปิด-ปิดเคสอัตโนมัติ รับเคส และจัดการเคสได้รวดเร็วขึ้น พร้อมช่วยลดเวลาจัดการเคส ด้วยระบบปฏิเสธเคสอัตโนมัติ และช่วยในการบริหารการทำงานของทีมดูแลลูกค้าด้วยการจำกัดสิทธิ์การจัดการและการเข้าถึงได้อย่างเป็นระบบ โดยเราคาดว่า Automation Workflow จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมดูแลลูกค้ามากขึ้นถึง 2 เท่าตัวในด้านของความซ้ำซ้อน ความล่าช้า และการส่งต่อเคสต่าง ๆ ที่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยเหลือได้มากขึ้น

เปิดตัว Direct Message on Instagram ทำได้แล้วบน WARROOM

ต่อยอดการดูแลลูกค้าบนช่องทางโซเชียลมีเดียให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาให้ WARROOM สามารถดึงข้อมูล Direct Message on Instagram มาแสดงบนไว้บน WARROOM ได้แล้ว เพราะจากปีที่ผ่านมามีการดำเนินธุรกิจบนอินสตราแกรมเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดอินฟลูเอนเซอร์เองก็กำลังเติบโตเป็นอย่างมาก การเก็บข้อมูลและดูแลลูกค้าผ่าน Direct Message on Instagram ได้จึงเป็นอีกช่องทางสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้ทีมงานดูแลลูกค้าสามารถบริหารและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าบนช่องทางออนไลน์ที่มีอยู่มากมายได้ด้วยเครื่องมือ CRM เดียวได้แล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการให้บริการที่รวดเร็วอีกด้วย

หากสนใจที่จะปรึกษาเกี่ยวกับ WARROOM  สามารถติดต่อทีมงาน Wisesight เพื่อสอบถามได้โดยตรงที่นี่เลย