วันหยุดชดเชยสงกรานต์ จะถูกเลื่อนไปช่วงไหนกันนะ… จากกระแสข่าวเลื่อนหยุดชดเชยสงกรานต์ไปวันไหนดี ทำให้เกิดความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับวันหยุดว่าควรหยุดยาวช่วงไหนดี หรือแบ่งการหยุดเป็นทีละหนึ่งวัน เป็นเดือนๆ แต่พอใช้เครื่องมือ ZOCIAL EYE ในการจับกระแสออนไลน์ กลับพบข้อมูลที่มีความน่าสนใจกว่าการหยุดยาวช่วงไหน ก็คือความเห็นของชาวโซเชียลที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการหยุดชดเชยวันสงกรานต์


ข้อมูลจาก ZOCIAL EYE ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.-17 มิ.ย. 63 พบว่า มีข้อความที่แสดงความเห็นว่าอยากหยุดชดเชยสงกรานต์ และไม่อยากอยากหยุดชดเชยสงกรานต์ เกิดขึ้นพร้อมๆ กันในแต่ละช่วง ซึ่งสัดส่วนของความคิดเห็น 2 ฝั่งออกมาว่า ข้อความที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับประเด็นวันหยุดชดเชยวันสงรานต์จำนวน ข้อความ และข้อความที่แสดงความคิดเห็นว่าอยากหยุดชดเชยวันสงกรานต์คิดเป็น 48% ส่วนข้อความที่แสดงความคิดเห็นว่าไม่อยากหยุดชดเชยวันสงกรานต์แล้วคิดเป็น 52% ซึ่งจะเห็นว่าสัดส่วนของคนไม่อยากหยุดแล้วมากกว่า และเป็นสัดส่วนที่มากกว่าขึ้นอีกด้วย!
วันหยุดชดเชยสงกรานต์ มาดูเสียงของคนอยากหยุดกันก่อน
ก่อนที่จะไปเจาะลึกว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ที่ไม่อยากหยุดชดเชยวันสงกรานต์กันเลย เรามาดูฝั่งที่อยากคงอยากหยุดกันก่อนดีกว่าว่า เพราะอะไรถึงยังอยากหยุดสงกรานต์ ซึ่งอินไซท์ที่เราเจอก็คือ
อันดับ 1 อยากพักผ่อน (62.85%)
อันดับ 2 อยากกลับบ้าน หาพ่อแม่ต่างจังหวัด (32.33%)
อันดับ 3 สิทธิการหยุดของพนักงาน (4.52%)
อันดับ 4 อยากหยุดแต่บริษัทไม่ให้หยุด (0.49%)
อันดับ 5 ทำธุระช่วงสงกรานต์ (0.12%)
แต่ตอนนี้คน MOVE ON จากวันหยุดสงกรานต์ไปแล้ว
ทั้งๆ ที่การได้หยุดชดเชยวันสงกรานต์ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีของใครหลายๆ คน เพราะจะสามารถใช้ช่วงเวลานั้นในการพักผ่อน เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อกลับไปหาครอบครัว แต่ก็กลับมีเสียงอีกจำนวนกว่าครึ่งที่ไม่อยากให้มีการหยุดชดเชยวันสงกรานต์เกิดขึ้น จากความคิดเห็นของกลุ่มคนที่ไม่อยากหยุดชดเชยวันสงกรานต์ มาเจาะข้อมูลให้ลึกขึ้นว่าเพราะอะไรที่ทำให้คนเหล่านั้นไม่อยากหยุดชดเชยวันสงกรานต์ ซึ่งสามารถจัดอันดับออกมาได้ตามนี้ครับ

อันดับ 1 MOVE ON ต่อ ไม่รอแล้วนะ (28.60%)
วันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ คนมองว่าเทศกาลสงกรานต์ไม่ใช่แค่วันหยุดพักผ่อนติดกัน 3 วัน แต่มองว่ามันคือประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย ที่มีการรดน้ำดำหัว ขอพรจากผู้ใหญ่ การเล่นน้ำกัน ดังนั้น การที่มีการประกาศให้หยุดอยู่บ้าน 3 วันหรือทะยอยหยุดทีละวัน จึงไม่ใช่การหยุดชดเชยวันสงกรานต์ เมื่อมันผ่านมาแล้ว ก็อยากให้ผ่านไปแล้ว ผ่านไปเลย ตอนนี้จากหยุด เปลี่ยนเป็นขอจองไปสนุกกับสงกรานต์ปีหน้าดีกว่า

อันดับ 2 กังวลการขาดรายได้ ช่วงหยุดยาว (26.34%)
จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วง COVID19 คนกังวลเรื่องของการขาดรายได้ มากกว่าการได้หยุดพักผ่อน เพราะการหยุดของพนักงานรายวัน เท่ากับขาดรายได้ของวันๆ ไป รวมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของบริษัทที่ถ้ามีการหยุดยาว จะทำให้บริษัทขาดรายได้ มีปัญหา อาจถึงขั้นปิดกิจการ ซึ่งก็จะส่งผลกับตัวเองตกงานไปด้วย

อันดับ 3 เด็กเปิดเทอม (16.64%)
คนมองว่าการศึกษาของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ การที่โรงเรียนเพิ่งมีการเปิดการเรียน แล้วมีการหยุดเรียนยาว ทำให้นักเรียนเสียโอกาสในการเรียน และกังวลเรื่องเวลาในการเรียนจะไม่พอ

อันดับ 4 กลัวโควิด 19 (15.37%)
หลายคนยังมีความกังวลในสถานการณ์โควิดที่ช่วงนี้กำลังดีขึ้น และแนวโน้มไปในการที่ดี แต่ถ้ามีการหยุดยาว คนเริ่มทยอยกลับบ้าน มาตรการต่างๆ ที่ทางรัฐบาลได้ทำจะไม่มีประโยชน์ ทำให้ชาวโซเชียลกังวลว่า การให้หยุดชดเชยช่วงสงกรานต์ จะเป็นการทำให้วิกฤต covid19 กลับมาอีกครั้ง
อันดับ 5 หยุดอยู่บ้านจนเบื่อ (13.04%)
บางคนเบื่อจากหยุดยาวจากสถานการณ์ COVID-19 แล้ว ถ้าจะให้หยุดอีก แต่ก็ยังไปไหนมาไหนยังไม่สบายใจ ก็เท่ากับว่าไปเที่ยวได้ยังไม่อิสระ ดีไม่ดีอาจต้องอยู่บ้าน นอนซีรีส์ต่อไปนี่แหละ ทำให้ไม่เห็นด้วยกับการหยุดยาว
จากข้อมูลการวิเคราะห์ของ ZOCIAL EYE ก็ทำให้เราว่า ท่ามกลางกระแสถกเถียงว่าจะหยุดชดวันสงกรานต์ช่วงไหนดี กลายเป็นว่าเสียงในโซเชียลไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่นัก เพราะเสียงส่วนใหญ่ได้ Move on กับวันหยุดสงกรานต์กันไปแล้ว เมื่อมันผ่านมาแล้ว ต่างก็อยากให้ผ่านเลยไป วันหยุดสงกรานต์ที่ไม่ได้อยู่ในวันนั้นจริงๆ เหมือนกับ “วันหยุดชุดเชย” ไม่สามารถแทนที่ “วันหยุดจริงๆ” ของสงกรานต์ได้ วันหยุดในเทศกาลสำคัญของไทย ไม่ใช่แค่ได้หยุด พักผ่อน แต่มันคือการมีเวลาได้ไปร่วมกิจกรรมของวันสงกรานต์ด้วย และด้วยความที่ถูกเลื่อนออกมานานเกินไป บวกกับสถานการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่า Move on ก่อนแล้วกัน อีกไม่กี่เดือน ก็จะถึงสงกรานต์อีกที่แล้ว
แล้วคุณละ มีความเห็นยังไงกับการหยุดชดเชยช่วงสงกรานต์
เก็บข้อมูลจาก: ZOCIAL EYE ระหว่างวันที่ 1-17 มิ.ย. 63
วิเคราะห์ข้อมูลโดย: พชร สุวรรณวนกุล