สำหรับแบรนด์ที่ทำการตลาดบนช่องทางโซเชียลมีเดียคงจะเจอกับปัญหาในเรื่องของการวัดผลลัพธ์ Brand Perforamance ไม่มากก็น้อย ทั้งจากการที่โซเชียลมีเดียนั้นมีอยู่หลากหลายช่องทางในเลือกใช้งาน หากแบรนด์เลือกที่จะทำการตลาดในทุกช่องทาง การรวบรวมข้อมูล Brand Performance ทั้งหมดในแต่ละเดือนคงเป็นงานที่ยุ่งยากและใช้เวลา นอกจากนี้ ในด้านการเลือกที่จะเก็บข้อมูล (Collect Data) เองก็ทำได้ยากจากการที่ในแต่ละช่องทางโซเชียลมีเดียมี Key Metrics ในการวัดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน 

ดังนั้น จะดีกว่าไหม? หากเราใช้เครื่องมือที่ช่วยทำให้การวัด Brand Performance เป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น … Social Metric คือ แพลตฟอร์มที่สามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนี้จาก 5 ช่องทางโซเชียลมีเดียหลัก เช่น Facebook, Instagram, TikTok, YouTube ฯลฯ มาแสดงผลบนแดชบอร์ด (Dashboard) พร้อมทั้งนำเสนอ Key Metrics สำคัญ ๆ ในแต่ละช่องทางโซเชียลมีเดียที่สามารถนำมาทำเป็น KPI Monitoring สำหรับแบรนด์เพื่อติดตาม Performance ของแบรนด์มาให้แบบเดือนต่อเดือน 

Social Metric จึงช่วยตอบคำถามสำคัญในเรื่องของการวัดผลลัพธ์ Brand Performance ที่นักการตลาดมักสงสัย ไม่ว่าจะเป็น…

  • แบรนด์ของเราหรือคู่แข่งทำได้ดีกว่ากันในแต่ละช่องทางโซเชียลมีเดีย?
  • ไม่รู้ว่าจะผลลัพธ์อะไรบนโซเชียลมีเดียในแต่ละช่องทางดี? 
  • ผลลัพธ์ไหนกันแน่ที่ส่งผลต่อ Brand Performance?
  • แบรนด์ควรที่จะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียไหนในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย?
  • มีช่องทางโซเชียลมีเดียไหนบ้างที่ควรปรับปรุงแผนการสื่อสารเพื่อเอาชนะคู่แข่ง?

มาดูกันดีกว่าว่า ในแต่ละช่องทางโซเชียลมีเดีย แบรนด์สามารถวัดผลจากตัวชี้วัดไหนได้บ้าง โดยบน Social Metric จะแบ่งการวัดผลได้ทั้งในฝั่งช่องทางโซเชียลมีเดียที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง (Owned Channel) และช่องทางโซเชียลมีเดียที่กล่าวถึงแบรนด์ (Earned Channel)

ตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลได้บนช่องทาง Facebook

ข้อมูลบน Facebook ที่สามารถวัดผลจากช่องทาง Owned Channel หรือช่องทางที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง มีทั้งหมด 7 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

Facebook Owned Data-Social Media on Social-Metric
  • Post: จำนวนโพสต์ที่เกิดขึ้นบน Facebook ของแบรนด์
  • Reaction: จำนวนการกด Like, Love, Wow, Haha และ Angry บน Facebook ของแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นบน Facebook ของแบรนด์
  • Share: จำนวนการแชร์ที่เกิดขึ้นบน Facebook ของแบรนด์
  • Intention: จำนวนข้อความของการแสดงความคิดเห็นที่แสดงความสนใจต่อแบรนด์หรือคอนเทนต์ของแบรนด์บน Facebook
  • Tag Friend: จำนวนข้อความของการแสดงความคิดเห็นที่มีการแท็กชื่อคนอื่นภายใต้โพสต์บน Facebook ของแบรนด์
  • Follower: จำนวนผู้ติดตามของแบรนด์บน Facebook

ส่วนข้อมูลบน Facebook ที่สามารถวัดผล จากช่องทาง Earned Channel หรือช่องทางที่ผู้อื่นพูดถึงแบรนด์มีทั้งหมด 4 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

Facebook Earned Data Social Media on Social Metric
  • Daily Unique Messages: จำนวนบัญชีผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียที่พูดถึงแบรนด์ใน 1 วันแบบไม่ซ้ำบน Facebook
  • Reaction: จำนวนการกด Like, Love, Wow, Haha และ Angry จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน Facebook ที่พูดถึงแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน Facebook ที่พูดถึงแบรนด์
  • Share: จำนวนการแชร์จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน Facebook ที่พูดถึงแบรนด์

ตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลได้บนช่องทาง Instagram

ข้อมูลบน Instagram ที่สามารถวัดผลจากช่องทาง Owned Channel หรือช่องทางที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง มีทั้งหมด 6 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

Instagram Owned Data Social Media on Social Metric
  • Photo: จำนวนโพสต์ประเภทรูปภาพที่เกิดขึ้นบน Instagram ของแบรนด์
  • Reel: จำนวนของวิดีโอประเภท Reel ที่เกิดขึ้นบน Instagram ของแบรนด์
  • Like: จำนวนการกด Like ที่เกิดขึ้นบน Instagram ของแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นบน Instagram ของแบรนด์
  • View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอบน Instagram ของแบรนด์
  • Follower: จำนวนผู้ติดตามของแบรนด์บน Instagram

ส่วนข้อมูลบน Instagram ที่สามารถวัดผล จากช่องทาง Earned Channel หรือช่องทางที่ผู้อื่นพูดถึงแบรนด์มีทั้งหมด 4 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

Instagram Earned Data Social Media on Social Metric
  • Daily Unique Messages: จำนวนบัญชีผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียที่พูดถึงแบรนด์ใน 1 วันแบบไม่ซ้ำบน Instagram
  • Like: จำนวนการกด Like จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน Instagram ที่พูดถึงแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน Instagram ที่พูดถึงแบรนด์
  • View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นที่กล่าวถึงแบรนด์บน Instagram

ตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลได้บนช่องทาง TikTok

ข้อมูลบน TikTok ที่สามารถวัดผลจากช่องทาง Owned Channel หรือช่องทางที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง มีทั้งหมด 5 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

  • View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอบน TikTok ของแบรนด์
  • Like: จำนวนการกด Like ที่เกิดขึ้นบน TikTok ของแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นบน TikTok ของแบรนด์
  • Share: จำนวนการแชร์ที่เกิดขึ้นบน TikTok ของแบรนด์
  • Follower: จำนวนผู้ติดตามของแบรนด์บน TikTok
TikTok Owned Data Social Media on Social Metric

ส่วนข้อมูลบน TikTok ที่สามารถวัดผล จากช่องทาง Earned Channel หรือช่องทางที่ผู้อื่นพูดถึงแบรนด์มีทั้งหมด 4 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

  • View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นที่กล่าวถึงแบรนด์บน TikTok
  • Like: จำนวนการกด Like จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน TikTok ที่พูดถึงแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน TikTok ที่พูดถึงแบรนด์
  • Share: จำนวนการแชร์จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน TikTok ที่พูดถึงแบรนด์
TikTok Earned Data Social Media on Social Metric

ตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลได้บนช่องทาง YouTube

ข้อมูลบน YouTube ที่สามารถวัดผลจากช่องทาง Owned Channel หรือช่องทางที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง มีทั้งหมด 5 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

  • View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอที่กล่าวถึงแบรนด์บน YouTube
  • Like: จำนวนการกด Like ที่เกิดขึ้นบน YouTube ของแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นบน YouTube ของแบรนด์
  • Share: จำนวนการแชร์ที่เกิดขึ้นบน YouTube ของแบรนด์
  • Subscriber: จำนวนผู้ติดตามของแบรนด์บน YouTube
Youtube Owned Data Social Media on Social Metric

ส่วนข้อมูลบน YouTube ที่สามารถวัดผล จากช่องทาง Earned Channel หรือช่องทางที่ผู้อื่นพูดถึงแบรนด์มีทั้งหมด 3 จุดข้อมูล (Data Point) ได้แก่

  • View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอที่กล่าวถึงแบรนด์จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน YouTube
  • Like: จำนวนการกด Like บน YouTube จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นที่พูดถึงแบรนด์
  • Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน YouTube ที่พูดถึงแบรนด์
Youtube Earned Data Social Media on Social Metric

ตัวอย่างการใช้งาน Social Metric สำหรับวัด Performance บนโซเชียลมีเดีย

เมื่อรู้แล้วว่า เราสามารถดู Key Metrics อะไรได้บ้างจาก Social Metric คราวนี้เรามาดูตัวอย่างกันดีกว่าว่า ข้อมูลที่แสดงผลบน Social Metric สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง 

ยกตัวอย่างในเคสหนึ่งซึ่งเป็นธุรกิจที่พักที่มี Brand Performance ที่น่าสนใจในช่วงปี 2023 จากการที่ทำ Brand Performance ได้ดีทั้งในช่องทางโซเชียลมีเดียที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง (Owned Channel) และช่องทางโซเชียลมีเดียที่กล่าวถึงแบรนด์ (Earned Channel) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของคะแนนทั้งอุตสาหกรรม

Owned Earned Score - Social Metric
Owned Score และ Earned Score บน Social Metric

เมื่อเข้ามาที่ Social Metric จะเห็นค่า Owned Score และ Earned Score ซึ่งเป็นคะแนนวัดประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียที่แยกคะแนนให้เห็นทั้งในฝั่งช่องทางโซเชียลมีเดียที่แบรนด์เป็นเจ้าของ (Owned Channel) และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นที่กล่าวถึงแบรนด์ (Earned Channel) ช่วยทำให้แบรนด์เห็นว่า เมื่อวัด Performance ของแบรนด์แบบแยกช่องทางแล้วแบรนด์ทำผลงานได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม 

คะแนน Owned Score วัดผล Brand Performance บนโซเชียลมีเดีย

เมื่อคลิกเข้ามาดูกราฟของฝั่ง Owned Score จะเห็นว่าตลอดทั้งปี 2023 แบรนด์สามารถทำ Owned Score ได้ดีต่อเนื่อง และดีกว่าค่า Avg.Industry Score ค่อนข้างมาก แสดงว่าในช่องทางโซเชียลมีเดียที่แบรนด์เป็นเจ้าของ (Owned Channel) ทำการสื่อสารและทำคอนเทนต์ได้ดี

earned score บน Social Metric

ส่วนในฝั่งของคะแนน Earned Score จะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีในเดือนมกราคมมีอัตราการเติบโตมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง และทำได้ดีกว่าเส้น Avg.Industry Score ของทั้งอุตสาหกรรมด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า ธุรกิจที่พักและโรงแรมที่มีการแข่งขันสูงต้องทำอะไรบ้างถึงมี Brand Performance ที่ดีได้ทั้ง 2 ช่องทาง  

Engagement by channel ดูว่าช่องทางไหนบนโซเชียลมีเดียที่ทำ Performance ได้ดี

ลองมาเจาะลึกกันต่อว่าช่องทางโซเชียลมีเดียอะไรบ้างที่แบรนด์เลือกใช้ โดยดูที่ Engagement By Channel ที่จะแสดงผลว่าในเดือนนั้น ๆ แบรนด์ใช้โซเชียลมีเดียในช่องทางไหน เพื่อทำการตลาดหรือสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายบ้าง ซึ่งจากตัวอย่างจะเห็นว่าแบรนด์ใช้ 3 ช่องทางด้วยกันคือ Facebook, Instagram และ TikTok เป็นหลัก ซึ่งช่องทาง TikTok เป็นช่องทางที่ได้รับ Engagement ที่เติบโตและมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ

ตัวอย่างการดู Performance แบบแยกช่องทางโซเชียลมีเดียบน Social Metric

จากข้อมูลของโรงแรมนี้จะเห็นว่า ช่องทางโซเชียลมีเดียที่น่าสนใจที่จะดูวิธีการทำการตลาดและการทำคอนเทนต์คือ TikTok เนื่องจากมียอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ที่เติบโตค่อนข้างดี มาเจาะลึกช่องทางนี้ไปพร้อม ๆ กัน

เจาะลึก TikTok ฝั่ง Owned Channel

Tiktok socre timeline ในฝั่ง Owned Channel

ตัวอย่างการเจาะลึกข้อมูลแบรนด์โรงแรมนี้ในฝั่งช่องทาง TikTok ที่แบรนด์เป็นเจ้าของ (Owned Channel) จะเห็นว่า TikTok Score Timeline ที่เป็นข้อมูลแสดง TikTok Score ตลอดทั้งปีจะเห็นว่า มีคะแนนที่สูงกว่าคะแนนค่าเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรม (Avg.Industry Score) แสดงว่าแบรนด์โรงแรมนี้มีความโดดเด่นในแง่ของการทำ Brand Performance ที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในอุตสาหกรรม 

และถ้าอยากรู้ว่าการโปรโมตในช่วงไหนที่แบรนด์นี้ทำ Performance ในช่องทาง Owned Channel ได้ดี ก็สามารถเลือกข้อมูลย้อนหลังดูในแต่ละเดือนได้ ซึ่งถ้าดูจาก TikTok Score จะเห็นว่าช่วงที่คะแนนเริ่มสูงจะเป็นตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนของปี 2023  ไปจนถึงช่วงธันวาคมปี 2023

TikTok Engagement Timeline บน Social Metric


สัมพันธ์กับข้อมูลของ TikTok Engagement Timeline ที่แสดงข้อมูลของยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ในช่องทาง TikTok ของแบรนด์นี้ที่ในช่วงเดือนกันยายนมียอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

Key Metric บน Social Metric

เจาะลึกข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นแบบแยกรายตัวชี้วัด (Key Metrics) ซึ่งบนช่องทาง TikTok ในฝั่ง Owned Channel จะมีตัวชี้วัดสำคัญได้แก่

1) View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอบน TikTok ของแบรนด์ โดยสามารถดูได้ว่าโพสต์ไหนมีจำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอมากที่สุด

2) Like: จำนวนการกด Like ที่เกิดขึ้นบน TikTok ของแบรนด์ โดยสามารถดูได้ว่าโพสต์ไหนมีจำนวนครั้งของการกด Like มากที่สุด

3) Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นบน TikTok ของแบรนด์ โดยสามารถดูได้ว่าโพสต์ไหนมีจำนวนครั้งของการแสดงความคิดเห็นมากที่สุด

4) Share: จำนวนการแชร์ที่เกิดขึ้นบน TikTok ของแบรนด์ โดยสามารถดูได้ว่าโพสต์ไหนมีจำนวนครั้งของการแชร์มากที่สุด

5) Follower: จำนวนผู้ติดตามของแบรนด์บน TikTok โดยสามารถดูได้ว่าโพสต์ไหนที่ที่ทำให้เกิดผู้ติดตามมากที่สุด

ซึ่งจะเห็นว่ามีแนวโน้มของกราฟและคะแนนต่าง ๆ ในภาพรวมที่ดีในทุกตัวชี้วัด ขั้นต่อไปจึงต้องลงไปเจาะลึกกันต่อว่าแบรนด์โรงแรมนี้ทำการสื่อสารด้วยคอนเทนต์แบบไหนถึงทำให้ Key Metrics ต่าง ๆ เติบโตและโดดเด่นในช่องทาง TikTok 

all post list social metric

ซึ่งสามารถดูข้อมูลได้จาก All post list ที่จะแสดงผลของคอนเทนต์ในช่องทางที่แบรนด์เป็นเจ้าของ (Owned Channel) ว่ามีคอนเทนต์ไหนบ้างที่ทำ Performance ได้ดี (Hero Content) ในลักษณะไหน ซึ่งจากการวิเคราะห์เนื้อหาของคอนเทนต์ของแบรนด์นี้พบว่า คอนเทนต์ที่ได้รับการมีส่วนร่วมสูง (Engagement) และมียอดดูวิดีโอสูง (View) จะเป็นคอนเทนต์ที่ถ่ายให้เห็นสถานที่ของโรงแรมที่ดูสวยงาม บรรยากาศโดยรอบที่ดูมีความเป็นธรรมชาติแนวรีวิว รวมถึงมีความเป็นไลฟ์สไตล์ที่คนใช้งาน TikTok ชื่นชอบ ทำให้ Key Metrics ต่าง ๆ มีปริมาณที่สูง รวมถึงการทำคอนเทนต์ก็มีแนวทางที่ชัดเจนทำให้สร้างฐานการติดตามได้ดี

เจาะลึก TikTok ฝั่ง Earned Channel

ตัวอย่าง TikTok score timeline ฝั่ง Earned Channel

ตัวอย่างการเจาะลึกข้อมูลแบรนด์โรงแรมนี้ในฝั่งช่องทาง TikTok ที่ผู้อื่นกล่าวถึงแบรนด์ (Earned Channel) จะเห็นว่า TikTok Score Timeline ที่เป็นข้อมูลแสดง TikTok Score ตลอดทั้งปีในฝั่ง Earned Channel มีคะแนนที่สูงกว่าคะแนนค่าเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรม (Avg.Industry Score) แสดงว่าแบรนด์โรงแรมนี้มีความโดดเด่นในแง่ของการทำ Brand Performance ที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในอุตสาหกรรม โดยคะแนนสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2023 ไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคม

tiktok engagement timeline earned

เมื่อลงรายละเอียดด้านการมีส่วนร่วมจากฝั่งที่ผู้อื่นกล่าวถึงแบรนด์ (Earned Channel) จะเห็นว่าแบรนด์ได้การมีส่วนร่วมที่สูงตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน

Key metrics ฝั่ง Earned Channel

ซึ่งเมื่อพิจารณาตัวชี้วัด (Key Metrics) ของทางฝั่งที่ผู้อื่นกล่าวถึงแบรนด์ (Earned Channel) ไม่ว่าจะเป็น…

1) View: จำนวนครั้งที่มีการดูวิดีโอจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นที่กล่าวถึงแบรนด์บน TikTok

2) Like: จำนวนการกด Like จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน TikTok ที่พูดถึงแบรนด์

3) Comment: จำนวนการแสดงความคิดเห็นจากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน TikTok ที่พูดถึงแบรนด์

4) Share: จำนวนการแชร์จากบัญชีผู้ใช้งานอื่นบน TikTok ที่พูดถึงแบรนด์

View count timeline Social Metric
share count timeline - Social Metric
Like Tiktok timeline score - Social Metric

จะเห็นว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นั้นทำ Performance ในตัวชี้วัด (Key Metrics) ที่เป็น View, Share และ Like ได้สูงที่สุด

comment count timeline - Social Metric

ส่วนในฝั่งของการคอมเมนต์ (Comment) จะเห็นว่ามีอัตราการเติบโตเรื่อย ๆ โดยเริ่มก้าวกระโดดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน ซึ่งทางแบรนด์ต้องไปเจาะลึกเพิ่มเติมว่า มีใครพูดถึงแบรนด์ในช่วงนั้นว่าอย่างไรบ้าง และข้อความ (Message) ไหนที่มีผลทำให้ Performance สูงขึ้นบ้าง

สรุป

จะเห็นว่า ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียในแต่ละช่องทางของแบรนด์นั้นมีตัวชี้วัด (Key Metrics) ที่แตกต่างกัน การเก็บข้อมูลด้วยตนเองอาจจะทำให้ใช้เวลาค่อนข้างมาก รวมถึงไม่สามารถเก็บข้อมูลย้อนหลังได้ การใช้ Social Metric จึงเป็นเหมือนการมีตัวช่วยในการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปข้อมูลgเอาไว้ให้ในแพลตฟอร์มเดียว 

หากสนใจที่จะใช้แพลตฟอร์ม Social Metric สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญของ Wisesight เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน รวมถึงสิ่งที่จะได้รับแบบละเอียดได้เลยที่ >> Social Metric <<