WISESIGHT TREND ได้ทำการพัฒนารูปแบบของ UI (User Interface) ให้มีหน้าตาใหม่และใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม พร้อมปรับเปลี่ยนฟีเจอร์การแสดงผลที่ช่วยทำให้เห็นภาพรวมของข้อมูลเชิงลึก และช่วยให้มอนิเตอร์โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ชื่อฟีเจอร์ ‘View mode’ มาดูกันว่า ฟีเจอร์นี้คืออะไร และใช้งานอย่างไรได้บ้าง

ฟีเจอร์ View mode คืออะไร

ฟีเจอร์ View mode คือ มุมมองการแสดงผลของ TREND.WISESIGHT ที่ออกแบบมาให้สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ 

  • รูปแบบ Dynamic
  • รูปแบบ 5×5

ซึ่งการแบ่งมุมมองการแสดงผลเช่นนี้นอกจากความสวยงามที่มีมากขึ้นแล้ว ก็ยังช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นภาพรวมของเทรนด์และอันดับของเทรนด์บนโซเชียลมีเดียในรูปแบบในเชิงการทำรายงานได้ง่ายกว่าที่เคยได้ดีขึ้น

วิธีใช้งานฟีเจอร์ View mode

  1. เมื่อเข้าใช้งาน TREND.WISESIGHT จะสังเกตเห็นแถบ Menu bar บริเวณมุมขวามือ ให้คลิกเปิดที่ไอคอน Filter 
  2. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถปรับแต่งได้ โดยฟีเจอร์ View mode จะอยู่ในตำแหน่งซ้ายมือของหน้าจอ (ในเวอร์ชัน Desktop) โดยคุณสามารถเลือกปรับเปลี่ยนหน้าจอการแสดงผลออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่

View mode แบบ Dynamic

ฟีเจอร์ View mode ในมุมมองแบบ Dynamic จะเป็นการแสดงผลของโพสต์และอันดับเทรนด์ของแอ็กเคานต์ต่าง ๆ และจะแสดงผลในรูปของ Card Design โดยใน 1 Scroll bar จะแสดงขึ้นมาทั้งหมด 4 การ์ด สามารถเลื่อนดูเทรนด์ได้เรื่อย ๆ สูงสุด 200 อันดับ และในแต่ละการ์ดจะแสดงรายละเอียดของโพสต์จากแอ็กเคานต์ต่าง ๆ พร้อมรายละเอียด ดังนี้

  • ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน
  • เวลาที่โพสต์ (จะเป็นการแสดงเวลาว่าโพสต์นี้เผยแพร่มานานแค่ไหนแล้ว เช่น 30 นาทีที่แล้ว เป็นต้น)
  • รูปภาพ
  • แคปชัน
  • คีย์เวิร์ดยอดนิยม (Keyword) ที่เกี่ยวกับโพสต์นั้น
  • จำนวนของผู้ติดตาม (Audience Size) 
  • ช่องทางของโพสต์นั้น ๆ ได้แก่ Facebook, Twitter, Instagram, YouTube, Forum News และ Others
  • เมตริกต่าง ๆ ทั้งยอดไลก์ (Like), แชร์ (Share) และคอมเมนต์ (Comment)
  • รูปแบบของการพูดถึงโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าเป็นไปในทางบวก ลบ หรือกลาง ๆ (Sentiments)

View mode แบบ 5×5

ส่วนฟีเจอร์ View mode แบบ 5×5 จะเป็นการแสดงผลการค้นหาในรูปแบบของ Card Design ที่มีรายละเอียดต่าง ๆ เหมือนกับการเลือกดู View mode ในมุมมองแบบ Dynamic แต่ใน 1 Scroll bar จะแสดงขึ้นมาทั้งหมด 5 การ์ด และสามารถเลื่อนดูเทรนด์ได้เรื่อย ๆ สูงสุด 200 อันดับ 

ซึ่งการเปลี่ยนมุมมอง View Mode มาเป็นในรูปแบบ 5×5 จะเป็นรูปแบบของการแสดงผลที่รองรับรูปแบบคอนเทนต์บนโลกโซเชียลมีเดียในปัจจุบันได้มากขึ้น ทำให้เห็นภาพรวมของเทรนด์ต่าง ๆ ในมุมมองที่กว้างขึ้น หากใช้ในการดูเทรนด์เฉพาะอุตสาหกรรมก็จะช่วยทำให้เห็นภาพที่สามารถนำไปต่อยอดได้ง่าย และยังสามารถนำไปทำ Daily Report/Trend Report ได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

ตัวอย่างการใช้งาน View mode

สำหรับตัวอย่างการใช้ View mode จะขอเปรียบเทียบหน้าตาของการแสดงผลลัพธ์การใช้งานด้วยการคัดกรองข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้งานต่อได้ ดังนี้

การเลือกมุมมอง View mode ในเนื้อหาแบบ Trending

การเลือกดูผลลัพธ์ในรูปแบบของ Trending จะเป็นการเลือกดูเนื้อหาที่เป็นเทรนด์โดยรวมของโซเชียลมีเดียในขณะนั้น ไม่ได้เลือกแยกตามอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง สามารถเลือกดูได้ 2 โหมด คือ Sort by Lasted เป็นการแสดงผลของโพสต์ล่าสุด กับ Sort by Engagement เป็นการแสดงผลของโพสต์ที่คนมีส่วนร่วมมากที่สุด 

ยกตัวอย่างการใช้ View mode ในเนื้อหาแบบ Trending เช่น 

View mode แบบ Dynamic ในโหมดของ Engagement

 View mode แบบ 5×5 ในโหมดของ Engagement

การดู View mode ในโหมด Engagement ส่วนใหญ่จะเป็นการค้นหาเทรนด์ของผู้มีชื่อเสียงที่กำลังเป็นที่พูดถึงหรือได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ว่ามีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอะไรบ้าง หรือกำลังโปรโมตอะไรอยู่ อย่างเช่น ในช่วงเดือน 12 วันที่ 12 ที่ Lazada จัดการโปรโมตแคมเปญ 12.12 พื้นที่ของโซเชียลมีเดียของผู้มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ก็กำลังพูดถึงแคมเปญของ Lazada ซึ่งถ้าทางแบรนด์เข้ามาดูกระแสของยอดการมีส่วนร่วมของผู้คนก็จะเห็นเลยว่าอินฟลูเอนเซอร์ ดารา หรือนักแสดงคนไหนมีอิทธิพลและช่วยโปรโมตงานนี้ได้มากที่สุด และ Lazada ได้รับการพูดถึงในรูปแบบไหนบ้าง

การเลือกมุมมอง View mode ตามอุตสาหกรรม

WISESIGHT TREND ได้รวบรวมเทรนด์จากอุตสาหกรรมต่าง ๆ และแยกออกเป็นหมวดหมู่เอาไว้กว่า 26 อุตสาหกรรม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูเทรนด์ตามอุตสาหกรรมที่สนใจได้ ซึ่งจะช่วยทำให้เจาะลึกถึงข้อมูลสำหรับการทำการตลาดเฉพาะของสินค้าและบริการได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ยกตัวอย่างการเลือกมุมมองแบบ View mode ตามอุตสาหกรรม เช่น 

View mode แบบ Dynamic ของอุตสาหกรรม AUTOMOBILE

View mode แบบ 5×5 ของอุตสาหกรรม AUTOMOBILE

หากทำการเลือกอุตสาหกรรมเป็น AUTOMOBILE ภาพรวมของ View mode ก็จะเกี่ยวข้องกับแอ็กเคานต์ที่โพสต์เกี่ยวกับยานยนต์เป็นหลัก โดยจะเห็นว่ารุ่นรถจากแบรนด์ใดกำลังอยู่ในกระแสและเป็นที่สนใจบ้าง มีการปล่อยแคมเปญอะไรในขณะนี้ ซึ่งนักการตลาดสามารถใช้ View mode ในรูปแบบนี้ในการสำรวจตลาดและคู่แข่งแยกตามแต่ละอุตสาหกรรมได้เลย

การเลือกมุมมอง View mode ตามประเด็นที่กำลังนิยม (HIGHLIGHT)

สำหรับใครที่เป็นสายคอนเทนต์ที่กำลังมองหาไอเดียในการทำคอนเทนต์ หรือเป็นนักการตลาดที่กำลังมองหาเทรนด์มาทำแคมเปญ สามารถเลือกดูมุมมอง View Mode ตามประเด็นที่กำลังนิยม (HIGHLIGHT) ในขณะนั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น

View mode แบบ Dynamic ใน HIGHLIGHT หมวด Beauty

View mode แบบ 5×5 ใน HIGHLIGHT หมวด Beauty

การเลือกการแสดงผลลัพธ์ของเทรนด์ใน HIGHLIGHT หมวด Beauty จะทำให้เห็นว่าในช่วงนี้มีแอ็กเคานต์ที่โพสต์เกี่ยวกับไฮไลต์นี้ในเรื่องอะไร มีใครเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความนิยมบ้าง รวมถึงมีเทรนด์ของความสวยความงามเรื่องไหนบ้างที่น่าหยิบไปทำคอนเทนต์ต่อยอดได้  

สรุปการใช้งานฟีเจอร์ View Mode ของ TREND.WISESIGHT

ฟีเจอร์ View Mode เป็นฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกในด้านการปรับเปลี่ยนมุมมองการแสดงผล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นเทรนด์ในภาพรวมได้มากขึ้น รองรับกับหน้าตาของ User Interface (UI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้การรวบรวมข้อมูลบนฟีดที่เกิดขึ้นในแต่ละวันทำได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การวางแผนการตลาด ทำคอนเทนต์ หรือเก็บข้อมูลเพื่อทำรีพอร์ตเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นด้วย

ดูรีวิวและวิธีการใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ WISESIGHT TREND ได้ที่

  • ฟีเจอร์ Channel
  • ฟีเจอร์ Sort by
  • ฟีเจอร์ Account Label
  • ฟีเจอร์ Period
  • ฟีเจอร์ Keywords
  • ฟีเจอร์ Image Labels