สำหรับนักการตลาดที่ตามหาเครื่องมือเพื่อใช้ในการติดตามกระแสบนโลกโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ (Real-Time) ไปพร้อม ๆ กับใช้เพื่อค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์ต่าง ๆ ในเครื่องมือเดียว
Wisesight ขอแนะนำให้ทำความรู้จักกับ WISESIGHT TREND เพราะนี่คือเครื่องมือสำหรับรวบรวมความเคลื่อนไหวทุกประเด็นบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มดัง และคอยอัปเดตสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ควรรู้แบบสดใหม่อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน อีกทั้ง ยังมาพร้อมด้วยฟีเจอร์เด็ดที่คนทำ Influencer Marketing จะต้องชื่นชอบอย่างฟีเจอร์ Account Label ตัวช่วยคัดกรองประเภทบัญชีโซเชียลมีเดียที่ทำให้คุณตามหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
…ว่าแต่ฟีเจอร์นี้คืออะไร และจะทำงานอย่างไรบ้าง ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลย
ฟีเจอร์ Account Label คืออะไร
ฟีเจอร์ Account Label คือ ฟีเจอร์ที่ใช้ในการค้นหาและคัดกรองบัญชี (Account) ผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดีย โดยจะทำการแบ่งประเภทของบัญชีออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
- Category: เป็นการแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของธุรกิจ (Brand Industry) โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 16 อุตสาหกรรม และประเภทของบุคคลสาธารณะ (Public Figure) ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 38 ประเภทตามประเภทเนื้อหาของโพสต์
- Type: เป็นการแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของแบรนด์ ซึ่งจะแบ่งเป็น Public Figure (บัญชีของผู้ใช้งานประเภทบุคคลสาธารณะ), Brand (บัญชีของผู้ใช้งานประเภทแบรนด์) และ No Label (บัญชีของผู้ใช้งานที่ไม่สามารถระบุประเภทได้)
- Audience Size: เป็นการแบ่งหมวดหมู่ตามจำนวนผู้ติดตาม ซึ่งจะใช้เพื่อดูว่าแคมเปญนั้น ๆ ได้รับอิทธิพลจากกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ประเภทไหน และมีจำนวนผู้ติดตามมากเท่าไหร่ โดยแบ่งออกได้เป็น 7 กลุ่ม ได้แก่
- Pico จำนวนผู้ติดตาม 0 – 1,000 คน
- Nano จำนวนผู้ติดตาม 1,001 – 10,000 คน
- Micro จำนวนผู้ติดตาม 10,001 – 50,000 คน
- Mid-Tier จำนวนผู้ติดตาม 50,001 – 500,000 คน
- Macro จำนวนผู้ติดตาม 500,001 – 1,000,000 คน
- Mega จำนวนผู้ติดตาม 1,000,001 – 5,000,000 คน
- Elite จำนวนผู้ติดตามมากกว่า 5,000,000 คน
- TZA: เป็นการแบ่งหมวดหมู่ของอินฟลูเอนเซอร์ตามเกณฑ์การประกาศรางวัล Thailand Zocial Awards
ข้อดีของการใช้งานฟีเจอร์ Account Label
- ช่วยตรวจสอบและค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับแคมเปญการตลาด
การค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ด้วยการใช้ฟีเจอร์ Account Label ที่มีการจัดแบ่งประเภทของอินฟลูเอนเซอร์ออกเป็นหมวดหมู่ และมีเกณฑ์ชี้วัดที่หลากหลายจะช่วยทำให้ผู้ใช้งานสามารถคัดกรองอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรม หรือมีกลุ่มผู้ติดตามที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
- ช่วยในการทำความเข้าใจการใช้อินฟลูเอนเซอร์มากขึ้น
การคัดกรองอินฟลูเอนเซอร์แยกเป็นหมวดหมู่จะช่วยทำให้แบรนด์เห็นว่าในแต่ละอุตสาหกรรมมีการใช้อินฟลูเอนเซอร์หรือไม่ และถ้ามีจะเลือกใช้ใคร หรือทำไมจึงเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์คนดังกล่าว เช่น เป็นคนที่ทำคอนเทนต์แล้วได้รับการมีส่วนร่วมมากที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมที่คุณกำลังทำอยู่ เป็นต้น
- ช่วยทำให้มองเห็นรูปแบบและทิศทางความเคลื่อนไหวของภาพรวมในการใช้งานอินฟลูเอนเซอร์อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟีเจอร์ Account Label ช่วยทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นว่าเทรนด์ของอินฟลูเอนเซอร์บนโลกโซเชียลมีเดียเป็นอย่างไร มีแบรนด์ไหนที่เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์บ้าง ใครคือผู้ที่มีอิทธิพล รวมถึงมีทิศทางความเคลื่อนไหวไปในรูปแบบใด เช่น ในช่วงหนึ่งผู้คนให้ความสนใจกับการทำ Nano Influnecer มากขึ้น เนื่องจากมีความโดดเด่น หรือเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มตลาดประเภท Niche เป็นต้น
วิธีการใช้งานฟีเจอร์ Account Label
- เมื่อเข้าใช้งาน TREND.WISESIGHT จะสังเกตเห็นแถบ Menu Bar บริเวณมุมขวามือ ให้คลิกเปิดที่ไอคอน Filter
- หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถปรับแต่งได้ โดยฟีเจอร์ Keyword อยู่ในฝั่งขวามือของหน้าจอ (ในเวอร์ชัน Desktop) ผู้ใช้งานสามารถคลิกเพื่อคัดกรองข้อมูลแยกตามประเภทของบัญชีโซเชียลมีเดียได้เลย
ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label
สำหรับตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label จะขอยกตัวอย่างการแบ่งประเภท Influencer ในแบบต่าง ๆ พร้อมคัดกรองข้อมูลเพิ่มเติมผ่านมุมมองของการดูเทรนด์ในภาพรวม การดูเทรนด์ตามแต่ละอุตสาหกรรม และการดูเทรนด์ตาม HIGHLIGHT ที่ผู้คนให้ความสนใจ ดังนี้
- ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ Category
ตัวอย่างการใช้การใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ Category จะขอแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือการใช้งานในการดูเทรนด์ของอินฟลูเอนเซอร์ในภาพรวม และการดูเทรนด์ของอินฟลูเอนเซอร์ตามความนิยมในแต่ละหมวดหมู่ที่ผู้คนสนใจ
การดูเทรนด์ของอินฟลูเอนเซอร์ในภาพรวม
หลังจากที่เราทำการตั้งค่า Account Label ในรูปแบบ Category ให้เข้ามาตั้งค่าเลือกมุมมองการดูเทรนด์แบบภาพรวมเพิ่มเติม
ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะปรากฏอันดับของโพสต์จากบัญชีโซเชียลมีเดีย พร้อมมีการระบุรายละเอียดของ Category ในแต่ละโพสต์ให้ เช่น บัญชีของคุณแดน วรเวช จะจัดเป็นบัญชีที่อยู่ในหมวดหมวดหมู่ Entertianment หรือก็คือ Influencer สายบันเทิง เป็นต้น
ส่วนใครที่ต้องการค้นหาเทรนด์อินฟลูเอนเซอร์โดยอิงจากความนิยมตามไฮไลต์ที่คนนิยมพูดถึง ก็สามารถเข้าไปตั้งค่าในส่วนของ HIGHLIGHT เพิ่มเติมได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับคริปโตเคเรนซี ปกติแล้วคุณอาจจะคิดว่าคนที่จะโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องเป็นแค่สายลงทุนและการเงิน (Investment and Financial) เท่านั้น
แต่เมื่อทำการค้นหาก็จะเห็นว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำการโพสต์เกี่ยวกับคริปโตเคเรนซีนั้นมีอยู่ในหลาย Category ด้วยกัน เช่น กลุ่มของสายธุรกิจ (Business), สายข่าว (News and Reporter) เป็นต้น ซึ่งการค้นหาในรูปแบบนี้จะทำให้ผู้ใช้งานเห็นว่า อินฟลูเอนเซอร์ใน Category ใดบ้างที่โพสต์เกี่ยวกับประเด็นที่คนสนใจ และจะได้นำมาใช้ในการตามหาอินฟลูเอนเซอร์ในสายนั้น ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจาก Category เดิม ๆ ที่ใช้อยู่ก่อนหน้านี้ได้
- ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ Type
ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ Type จะเป็นการค้นหาประเภทของบัญชีตามประเภทของแบรนด์จากเทรนด์โดยรวม
เมื่อทำการคัดกรองเนื้อหาด้วยการตั้งค่า Account Label แบบ Type แล้วกดค้นหา หลังจากนั้นจะเห็นว่าบัญชีแต่ละบัญชีนั้นมี Type ของอินฟลูเอนเซอร์ที่แตกต่างกัน เช่น เป็น Public Figure (บัญชีของผู้ใช้งานประเภทบุคคลสาธารณะ), Brand (บัญชีของผู้ใช้งานประเภทแบรนด์) หรือ No Label (บัญชีของผู้ใช้งานที่ไม่สามารถระบุประเภทได้) ซึ่งช่วยทำให้ผู้ใช้งานรู้ได้ว่าบัญชีไหนเป็นบุคคลสาธารณะที่อาจสามารถจ้างงานได้ หรือบัญชีไหนเป็นแบรนด์ที่สามารถเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ได้
- ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ Audience Size
ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ Audience Size จะใช้ร่วมกันกับการหาเทรนด์ที่คนนิยมพูดถึง โดยในที่นี้จะยกตัวอย่างเช่น การค้นหาในกลุ่มของคนรักสัตว์อย่าง Catdog
เมื่อทำการกดค้นหาจะเห็นว่า บัญชีของอินฟลูเอนเซอร์ที่มียอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ในช่วงนี้มีจำนวนผู้ติดตามที่แตกต่างกัน และไม่ใช่ว่าการมีจำนวนผู้ติดตามเยอะแล้วจะได้ Engagement ที่ดีเสมอไป
ฟีเจอร์นี้จึงช่วยในการค้นหาบัญชีอินฟลูเอนเซอร์ที่มีกลุ่มผู้ติดตามคุณภาพ และมักจะมีการคอมเมนต์ ไลก์ แชร์ อยู่เสมอ หรือจะใช้เพื่อดูว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีจำนวนผู้ติดตามในกลุ่มใดที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์ในหัวข้อหรืออุตสาหกรรมนั้น ๆ มากที่สุดก็ได้เช่นกัน
- ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ TZA
ตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Account Label แบบ TZA จะใช้สำหรับค้นหาเทรนด์ตามแต่ละอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม (Beverage)
เมื่อกดค้นหาจะเห็นว่าบางโพสต์ของบางบัญชีจะมีการระบุปีที่ได้รับรางวัล THAILAND ZOCIAL AWARD ขึ้นมา ซึ่งฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ตรงที่ใช้ดูได้ว่ามีผู้ที่เข้ารอบจากงานประกาศรางวัล THAILAND ZOCIAL AWARD ในสัดส่วนเท่าใดบ้าง หากมีบัญชีใดได้รับการการันตีจากงาน Thailand Zocial Awards (TZA) ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดียในสาขาต่าง ๆ ก็จะช่วยทำให้แบรนด์เลือก Infuencer สำหรับโปรโมตแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
สรุปการใช้งานฟีเจอร์ Account Label ของ TREND.WISESIGHT
ฟีเจอร์ Account Label ของ WISESIGHT TREND เป็นฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับนักทำการตลาดในสาย Influencer Marketing หรือผู้ที่ต้องวางแผนการสื่อสารของแบรนด์ เนื่องจากเป็นฟีเจอร์ที่เจาะลึกถึงข้อมูลรายละเอียด (Insight) ของอินฟลูเอนเซอร์ที่อยู่บนโลกโซเชียลมีเดียได้ในหลากหลายด้าน ทำให้แบรนด์เห็นว่า ควรเลือกใช้ใคร และควรที่จะเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์แบบไหนจึงจะช่วยทำให้การโปรโมตแบรนด์ผ่านการทำ Influencer Marketing ประสบความสำเร็จ
ดูรีวิวและวิธีการใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ WISESIGHT TREND ได้ที่
- ฟีเจอร์ View mode
- ฟีเจอร์ Sort by
- ฟีเจอร์ Channel
- ฟีเจอร์ Period
- ฟีเจอร์ Keywords
- ฟีเจอร์ Image Labels