ทุกวันนี้ จะทำการตลาดหรือทำธุรกิจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ต้องตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรบนฐานของชุดข้อมูล (Data-based decision) เช่น Data-Driven Marketing หรือการทำ Performance Marekting ทั้งนี้ แค่รู้ข้อมูล ธุรกิจยังไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งหรือตลาดได้ ธุรกิจต้องทั้งรู้ข้อมูล ทั้งรู้ข้อมูลเร็ว และทั้งใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้เร็วด้วย จึงจะมีแต้มต่อเหนือคู่แข่งได้
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่หลายธุรกิจจะทุ่มแรงลงทุนกับการปั้นแดชบอร์ด (Dashboard) เพื่อใช้ติดตามข้อมูล ย่อยข้อมูล และนำเสนอข้อมูลออกมาให้พร้อมใช้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ตัดสินใจรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันท่วงที หรือคว้าโอกาสพลิกสถานการณ์ในจังหวะที่เหมาะสมที่สุดได้
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักแดชบอร์ดสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจมีแต้มต่อในการแข่งขัน นั่นคือ “Performance Dashboard” หรือ “แดชบอร์ดติดตามประสิทธิภาพ” ของธุรกิจโดยเฉพาะเจาะจงไปที่การวัดผลบนโซเชียลมีเดีย พร้อมกับตัวอย่างการใช้และอ่าน Performance Dashboard ให้เข้าใจจนนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ได้จริง
Dashboard คืออะไร
ก่อนจะไปกล่าวถึง Performance Dashboard เรามาดูกันก่อนว่า Dashboard นั้น คืออะไร และมีลักษณะหน้าตาแบบไหนถึงจะเรียกได้ว่า เป็น “แดชบอร์ด”

ตัวอย่างหน้าตา Dashboard จาก Zocial Eye
Dashboard คือ หน้าจอที่สรุปหรือย่อยข้อมูลที่สำคัญ ออกมาให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่าย ๆ ในรูปแบบของรูปภาพ (หรือ Data Visualization) เช่น กราฟ แผนภูมิ มีการใช้ไอคอน หรือตัวเลขสรุปขนาดใหญ่ ฯลฯ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานหรือผู้อ่านแดชบอร์ดเข้าใจข้อมูลได้แทบจะในทันที
ลักษณะโดยทั่วไปของแดชบอร์ด นอกจากจะใช้ภาพในการสรุปและนำเสนอข้อมูลแล้ว แดชบอร์ดยังมักออกแบบให้นำเสนอข้อมูลเพียงหน้าต่างเดียว มองเห็นภาพรวมและสถานการณ์ในหน้าจอเดียว รวมไปถึง มักออกแบบให้มีลักษณะแบบ Interactive หรือสามารถตอบสนองกับผู้ใช้งานได้ เช่น สามารถเลือกกรองข้อมูลเฉพาะที่ต้องการดูได้ สามารถเลือกเปรียบเทียบข้อมูลได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันและการแข่งขันทางการตลาดที่ดุเดือด รวดเร็ว แดชบอร์ดจึงมักถูกออกแบบให้สามารถดึงและประมวลผลข้อมูลที่เกิดขึ้นมานำเสนอได้แทบจะในทันที
แดชบอร์ดหนึ่งแดชบอร์ดจะทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นหลัก เช่น Marketing Dashboard, Business Dashboard, Financial Dashboard, Project Mangaement Dashboad, Brand Performance Dashboard และอื่น ๆ อีกมากมายตามแต่ละวัตถุประสงค์
ความสำคัญของ Dashboard ในการทำ Branding และ Marketing
สำหรับโลกของการตลาดและการสร้างแบรนด์ (Branding) แล้ว Dashboard ที่ดี จะช่วยให้ธุรกิจหรือแบรนด์สามารถเข้าใจสถานการณ์ มองสถานการณ์ได้ขาด เรียกได้ว่า เพียงแค่เห็นข้อมูลบนแดชบอร์ดก็รู้ได้แทบจะในทันทีว่า ควรทำอะไรต่อหรือควรมุ่งความสนใจไปที่อะไร รวมไปถึงสามารถเลือกคัดกรองดูเฉพาะข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก ไม่ต้องประมวลข้อมูลดิบด้วยตัวเอง
แตกต่างจากการทำรายงานหรือรีพอร์ต (Report) ที่เน้นการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องและนำเสนออย่างละเอียดเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกและเก็บรวบรวมข้อมูลมากกว่า
การใช้ Dashboard ในการวิเคราะห์ข้อมูล
Dashboard ช่วยรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง นำมาแสดงผลไว้ในที่เดียว ทำให้แบรนด์หรือธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่น แดชบอร์ดแสดงยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) กับแบรนด์จากช่องทางต่าง ๆ ที่แสดงผลออกมาเป็นแผนภูมิวงกลมหรือ Pie Chart

ตัวอย่าง Dashboard แสดงสัดส่วนบอกการมีส่วนร่วมในแต่ละช่องทางจาก Social Metric
จากรูปตัวอย่าง เราสามารถวิเคราะห์และสรุปได้แทบจะในทันทีเลยว่า ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ผ่านช่องโซเชียลมีเดียในช่องทางใดมากที่สุดหรือน้อยที่สุด จาก Pie Chart รวมไปถึงทราบว่า แต่ละช่องทางมีอัตราการเติบโตของ Engagement เพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์
การติดตามผลการทำงานของแบรนด์ด้วย Performance Dashboard
การใช้ Performance Dashboard ยังสามารถช่วยให้แบรนด์ติดตามผลการทำงานของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการรับรู้แบรนด์, การเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดเพื่อหาจุดแข็งและโอกาสในการพัฒนา, การติดตามประสิทธิภาพของช่องทางต่าง ๆ ที่แบรนด์ใช้ทำการตลาด ฯลฯ

ตัวอย่างกราฟ Engagement Timeline จาก Social Metric
ยกตัวอย่างเช่น Dashboard ของ Social Metric ที่แสดงกราฟไทม์ไลน์ยอดการมีส่วนร่วม (Engagement Timeline) ของแบรนด์ เราสามารถทราบเทรนด์การเติบโตของยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ของทั้งปี ทำให้รู้ว่า สิ่งที่แบรนด์ทำไป ให้ผลลัพธ์อย่างไร พร้อมสรุปได้ว่า แบรนด์กำลังมาถูกทางอยู่หรือไม่ เพื่อตัดสินใจวางกลยุทธ์ต่อไปทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
Performance Dashboard ที่ดีควรเป็นอย่างไร
- ใช้งานง่ายและเข้าใจได้เร็ว Performance Dashboard ที่ดีต้องมีการออกแบบอินเทอร์เฟซ (Interface) ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เน้นการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบภาพ เช่น กราฟและแผนภูมิที่เข้าใจได้ง่าย จัดวางข้อมูลเป็นระเบียบ มีลำดับความสำคัญที่ชัดเจน อาจมีคำอธิบายหรือคำแนะนำสั้น ๆ ประกอบ นอกจากนี้ ผู้ใช้ควรสามารถปรับแต่งมุมมองได้ตามความต้องการของแต่ละคน
- สามารถรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น การดึงข้อมูลจากหลาย ๆ แพลตฟอร์มอย่างอัตโนมัติ ช่วยให้เห็นข้อมูลภาพรวมที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ ระบบควรอัปเดตข้อมูลหรือดึงข้อมูลมาใช้ได้ในเวลาที่เหมาะสม
- สามารถประมวลข้อมูลออกมาใช้งานต่อได้จริง มีการวิเคราะห์แนวโน้มหรือเทรนด์ (Trend) และการคาดการณ์ได้ มีการสรุปค่าต่าง ๆ ออกมาเป็นรูปภาพหรือตัวเลขที่เข้าใจได้ทันที เช่น กราฟ แผนภูมิ แผนผัง ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ ฯลฯ รวมไปถึง มีข้อมูลแสดงผลครบถ้วนเพียงพอต่อการทำความเข้าใจสถานการณ์ ติดตามผลลัพธ์ หรือสามารถใช้งานได้ดีตามวัตถุประสงค์ของแดชบอร์ด
- การแสดงผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ควรมีตัวเลือกในการปรับแต่งการแสดงผล เช่น สี รูปแบบ และขนาด เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ ควรมีรองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์ที่หลากหลายด้วยการออกแบบที่ตอบสนอง (Responsive Design) และมีความสามารถในการสร้างการแสดงผลแบบโต้ตอบ (Interactive Visualization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและสามารถแสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบได้
แนะนำ Social Media Performance Dashboard แบบไม่ต้องทำเอง [สำหรับนักการตลาดและคนทำแบรนด์]

Brand Performance Dashboard จาก Social Metric
Social Metric คือ Social Media Performance Dashboard ที่ออกแบบมาสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจในยุคที่ต้องใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงลูกค้า และโฟกัสที่ประสิทธิภาพของการทำแบรนด์หรือ Brand Performance บนโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดและคนทำแบรนด์สามารถติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ได้อย่างใกล้ชิด ผ่านแดชบอร์ดที่ครอบคลุมและเข้าใจง่าย สามารถเลือกกรองดูข้อมูลรายช่องทาง ภาพรวม หรือเลือกดูเฉพาะที่แบรนด์ถูกกล่าวถึง (Earned Media) ได้ อีกทั้ง ยังมีเส้น Benchmarking หรือเกณฑ์มาตรฐานของแบรนด์ในอุตสาหกรรมเทียบให้แบรนด์เข้าใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
Social Metric ตอบโจทย์แบรนด์อย่างไรบ้าง?
- ล้ำหน้ายิ่งกว่า เพราะใช้ส่องประสิทธิภาพแบรนด์ของคู่แข่งได้ สามารถเลือกดูข้อมูลประสิทธิภาพแบรนด์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกช่องทางของคู่แข่งหรือแบรนด์ที่สนใจได้อย่างละเอียด
- ลดเวลาและความยุ่งยากในการวิเคราะห์ แสดงผลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเลือกกรองดูข้อมูลเฉพาะช่องทางได้ หรือจะดูสรุปทั้งภาพรวม (Overview) บนช่องทางของตัวเอง (Owned Media) หรือประสิทธิภาพแบรนด์จากการถูกกล่าวถึง (Earned Media) ได้
- แบรนด์ไม่จำเป็นต้องคำนวณข้อมูลเอง Social Metric ช่วยสรุปอัตราการเติบโต ประมวลผลนำเสนอข้อมูลสำคัญสำหรับแบรนด์ (Brand KPIs) ออกมาแสดงในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและชัดเจนมากที่สุด เช่น Pie Chart, Bar Chart, Matrix ฯลฯ
- เห็น Brand Performance ในที่เดียว สามารถดึงข้อมูลหลังบ้านของโซเชียลมีเดียทุกช่องทางมานำเสนอในที่เดียวได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาดึงข้อมูลจากช่องทางต่าง ๆ ทีละช่องทาง
- เข้าใจง่ายในพริบตา ด้วยตรรกะการประมวลผลและตีความออกมาเป็นคะแนน “Brand Score”
ดูแพ็กเกจ Social Metric << คลิกดูที่นี่
ตัวอย่างการใช้งาน “Social Metric” เพื่อเป็น Social Media Performance Dashboard สำหรับรายงานผลและวิเคราะห์ผล
ดู Brand Performance ของคู่แข่ง

บน Social Metric เราสามารถส่องดูประสิทธิภาพแบรนด์ของแบรนด์คู่แข่งหรือแบรนด์อื่น ๆ ได้เช่นเดียวกับการใช้ Social Metric ติดตามประสิทธิภาพแบรนด์ของเราได้ทุกอย่าง ทั้ง Brand Score และคะแนนต่าง ๆ รวมถึงกราฟ Engagement Timeline ที่ช่วยให้รู้ได้ทันทีว่า คู่แข่งกำลังเติบโตมากแค่ไหน
นอกจากนี้ Dashboard ยังช่วยให้แบรนด์เข้าใจกลยุทธ์ของแบรนด์คู่แข่งได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการดู Pie Chart “Enagement By Channel” เพื่อดูว่า คู่แข่งเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางใด ซึ่งทำให้การมีส่วนร่วม (Engagement) ในภาพรวมเติบโตขึ้นได้มาก เมื่อเทียบกับแบรนด์ของเราแล้ว เขามีกลยุทธ์ที่แตกต่างไปอย่างไร

และอีก Dashboard ที่อยากแนะนำให้ดูสำหรับการส่องคู่แข่ง คือ Brand Engagement Matrix (YTD) ที่จะคอยสรุปว่า แบรนด์ที่เราเลือกดู (ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ของเราเองหรือแบรนด์อื่น) อยู่จุดไหนในสนาม เป็นผู้นำหรือผู้ตามในอุตสาหกรรม โดยเราสามารถเลือกดูข้อมูลนี้จากทุกแบรนด์ที่เรามองว่าเป็นคู่แข่งได้ เมื่อส่องดูจนทราบว่า แบรนด์ไหนกำลังนำหน้าอยู่ เราจะได้ส่องกลยุทธ์และไอเดียการทำคอนเทนต์ของแบรนด์นั้นต่อได้
ดู Brand Performance ของตัวเอง

ตัวอย่างการดู Brand Performance ของแบรนด์ตัวเอง
แบรนด์สามารถติดตามผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพการทำแบรนดิ้งด้วย Social Metric ได้ทันที บน Dashboard ที่สรุปผลลัพธ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำแบรนด์ซึ่งประมวลผลออกมาเป็นคะแนนต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- Brand Score คะแนนสรุปภาพรวมแบรนด์ โดยเปรียบเทียบคะแนนกับแบรนด์อื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ทำให้รู้ได้ทันทีว่า แบรนด์กำลังนำหน้าในตลาดอยู่หรือไม่
- Sentiment Score คะแนนที่ตีความจากข้อคิดเห็นทั้งเชิงบวกและเชิงลบจากผู้คนบนโซเชียลมีเดีย ประมวลผลออกมาว่า ผู้คนมีความรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์
- Daily Message สรุปจำนวนข้อความ (Message) บนโซเชียลมีเดียที่มีคนกล่าวถึงแบรนด์ สามารถดูข้อมูลในรูปแบบกราฟ Messages Count Timeline เพื่อประเมินความสนใจของผู้คนที่มีต่อแบรนด์ได้
อีกทั้ง แบรนด์ยังสามารถติดตามเทรนด์ความนิยมของแบรนด์ผ่านกราฟ “Engagement Timeline” ที่สรุปรวมการมีส่วนร่วมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีได้ ช่วยให้แบรนด์เข้าใจสถานการณ์ได้ทันทีว่า ช่วงไหนที่แบรนด์ทำประสิทธิภาพแบรนด์ได้ดีหรือแย่ลง นำไปสู่การวิเคราะห์กลยุทธ์ต่อไป
ดูแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อหาเทคนิคใหม่ ๆ ในการสื่อสารกับลูกค้า


ในส่วนท้ายของ Social Metric Dashboard ระบบจะดึงข้อมูลโพสต์หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ จากทุกช่องทางของแบรนด์ที่เราเลือกดูมานำเสนอ ซึ่งเรียงลำดับตามยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ซึ่งเราสามารถใช้ดูไอเดียคอนเทนต์ของแบรนด์ต่าง ๆ ได้ ทั้งจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมหรือแบรนด์อื่นนอกอุตสาหกรรมที่อาจจะมีแนวทางและไอเดียแปลกใหม่ให้เราได้เรียนรู้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมี Bar Chart ที่สรุปแฮชแท็ก (Hashtag) ที่แบรนด์นั้น ๆ ใช้ โดยเรียงลำดับจากจำนวนข้อความหรือ Message ช่วยให้เห็นว่า แบรนด์นั้นกำลังโฟกัสประเด็นอะไรอยู่หรือประเด็นใดที่ทำให้เกิดกระแสนิยมต่อแบรนด์นั้น ๆ
สรุป
Dashboard ที่ดีนั้น จะต้องช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจเข้าใจสถานการณ์ได้ขาด เพียงแค่มองดูข้อมูลบนแดชบอร์ดก็สามารถเข้าใจได้โดยแทบจะในทันที
Social Metric ออกแบบมาเป็น Social Media Performance Report โดยเฉพาะ ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่แบรนด์ใช้อย่างครบถ้วนมาประมวลผลและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแดชบอร์ดที่ดูง่าย เข้าใจได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการตีคะแนน Brand Score หรือกราฟสรุปการมีส่วนร่วม นอกจากนี้ แดชบอร์ดของ Social Metric ยังช่วยให้แบรนด์เข้าใจตลาดหรือคู่แข่งอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมได้อีกด้วย
หากแบรนด์หรือธุรกิจของคุณกำลังมองหาเครื่องมือหรือแดชบอร์ดที่ช่วยให้คุณนำหน้าคู่แข่ง วางกลยุทธ์หรือตัดสินใจในจังหวะที่สำคัญได้ เชื่อว่า Social Metric จะตอบโจทย์คุณ
อ่านวิธีใช้งานอย่างละเอียด ที่นี่ >> Social Metric คืออะไร ใช้อย่างไร มีข้อมูลอะไรให้ดูบ้าง
Ref: