สวัสดีทุกคน กลับมาอีกครั้งกับบทความดี ๆ แชร์ประสบการณ์จากน้อง ๆ ฝึกงาน ครั้งนี้น้องมิ้นต์ (Business Analyst Intern) และน้องภูมิ (Web Developer Intern) นักศึกษาฝึกงานของไวซ์ไซท์ เรื่องราวของทั้งสองคนใน Wisesight เป็นอย่างไร Exclusive แค่ไหน ไปอ่านกันเลย


มาฝึกที่นี่ได้ยังไง มีขั้นตอนสมัครอย่างไรบ้าง ?

Mint: คือว่ามหาลัยเรามี MOU กับทาง Wisesight อาจารย์เราส่งข้อมูลมาให้ว่าที่นี่รับนักศึกษาฝึกงาน เราหาที่ฝึกงานพอดีแล้วเห็นองค์กรดูน่าสนใจเลยลองสมัครดู อาจารย์ก็ประสานส่งข้อมูลของเราให้กับทางบริษัท ประมาณอาทิตย์นึงทางบริษัทก็ขอสัมภาษณ์ ตอนสัมภาษณ์ก็มีแนะนำตัวว่าชื่ออะไร เรียนอะไรมาพี่เขาก็ถามว่าชอบทำกราฟไหม แล้วก็ลองเปิดงานที่พี่เขาเคยทำให้เราดูนิดหน่อย ของเราพอสัมภาษณ์เสร็จก็รู้ผลสัมภาษณ์เลย จากนั้นพี่ HR ติดต่อมายืนยันผลแบบ Official อีกที กระบวนการทั้งหมดกินเวลาคร่าว ๆ ประมาณอาทิตย์นึงซึ่งเราคิดว่าค่อนข้างไวเลย

Poom: ของผมอาจารย์ก็เป็นคนแนะนำบริษัทนี้ให้รู้จักเหมือนกัน ผมลองไป Research ข้อมูลดูก็เห็นว่าเป็นบริษัทที่สนใจมาก ๆ สิ่งที่บริษัททำหลายอย่างก็ตรงกับตรงกับความสนใจของผม ผมก็เลยสมัครไปดู ในช่วงแรกก็ได้คุยกับพี่ HR ที่เป็นคนประสานงานและนัดสัมภาษณ์ออนไลน์ให้ พอถึงวันสัมภาษณ์ก็ได้เจอกับพี่ ๆ ในทีมที่ต้องทำงานด้วยหลายคน ทีแรกเราก็เครียด 55555555 แต่พอได้คุย ได้ตอบคำถามก็รู้สึกว่าทุกคนค่อนข้างเป็นกันเองมาก ๆ สรุปก็คือผ่านมาได้ จากนั้นก็นัดวันเข้าฝึกงานตามกระบวนการของบริษัท


เรียนคณะ สาขา อะไร และ มาฝึกงานตำแหน่งอะไรที่ Wisesight ?

Mint: เราเรียนมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม สาขามุ่งเน้นวิทยาการข้อมูลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ใช่ นี่คือชื่อสาขา 55555555) เรามาฝึกในตำแหน่ง Business Analyst ถ้าให้เปรียบสิ่งที่เรียนกับตำแหน่งที่ได้ทำ เราว่าตรงกับที่เรียนอยู่นะ เพราะว่าสิ่งที่เราเรียนก็เน้นเกี่ยวกับข้อมูลอยู่เหมือนกัน แต่ก็คิดว่าเราก็ยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับ Business ขนาดนั้น ในส่วนนี้เราคิดว่าต้องไปศึกษาเพิ่มเอา ส่วนการทำงานของเราในตำแหน่งนี้ เราจะโฟกัสเรื่องของการทำ Chart แล้วก็ควรรู้จักข้อมูลที่เราจะต้องจะนำมาทำให้ดีมาก ๆ เพราะถ้าไม่รู้จักข้อมูลเราก็จะเอามาทำ Chart ไม่ได้เลย

Poom: ผมก็เรียนคณะเดียวกับมิ้นต์ แต่อยู่สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มาฝึกในตำแหน่ง Web Developer แต่การทำงานนี้ที่ Wisesight เราต้องสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเข้าใจความต้องการทางธุรกิจด้วยก็เลยมีได้แตะงานของ Business Analyst บางส่วน ซึ่งหลายอย่างที่ว่ามาเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ท้าทายแต่ก็สนุกมาก



ช่วงฝึกงานได้ทำอะไรบ้าง ?

Mint: จากตำแหน่ง งานของเราคือการสอบถามและเก็บ Requirements ต่าง ๆ จาก User เพื่อเอาข้อมูลมาแสดงผลให้ตอบโจทยตามที่ User ต้องการ การเก็บ Requirements ของเราส่วนใหญ่จะมาจากการประชุม พี่เขาจะให้ข้อมูลมาเลยว่าอยากได้อะไร แล้วก็เอามาทำ Dashboard และ Chart การทำก็จะนึกถึงผู้ใช้งานเป็นหลักว่าเขาอยากรู้ข้อมูลอะไร ทำยังไงเขาถึงจะเห็นข้อมูลแล้วเข้าใจได้ง่าย มีข้อมูลไหนที่คิดว่าจำเป็นกับเขาอีกบ้างไหม ถ้ามีเราก็ทำเพิ่มให้ บางทีจะมีเตรียม Dataset เองบ้างนิดหน่อย ตัว Data ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลการขาย ของ Sales และ CXM (ที่อื่นเรียก AE) ซึ่งเป็นข้อมูลของลูกค้าที่มาจากทีม Business โดยข้อมูลที่เราวิเคราะห์ออกมาเป็น Dashboard และ Chart ก็จะเป็นพี่ ๆ ในทีม Sales และทีม Business นี่แหละที่นำไปใช้ต่อกัน มี C-level มาดูบ้าง แล้วก็ Tool ที่ใช้ส่วนใหญ่คือ โปรแกรม Superset มีใช้ Microsoft Excel บ้าง ส่วนภาษาใช้ SQL เป็นหลัก นอกจากงานที่ได้ทำประจำแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้เราทำตลอดด้วย เช่น วัน We Day ที่จะมีกิจกรรมให้ทำทุกไตรมาศ แถมนักศึกษาฝึกงานยังสามารถลงเรียน Training course ต่าง ๆ ของบริษัทได้ด้วย (พี่ ๆ ที่น่ารักชวนลงตลอด 55555) แล้วก็ล่าสุดเราได้ไปจอยคลาสเรียนเรียนมวยของชมรม Boxing  555555 สนุกสุดๆไปเลย!

Poom: ในช่วงแรกของการฝึกงานก็เป็นช่วงที่ต้องทำความเข้าใจกับข้อมูล เครื่องมือใหม่ ๆ และทำกราฟจากข้อมูลเหล่านั้น โดยใช้ Apache Superset (เครื่องมือทำ Visualization จาก Database ได้แบบ Real time ได้โดยผ่านข้อมูลที่เรากำหนด) งานส่วนใหญ่ของเราจะทำงานและอยู่กับข้อมูลเยอะมากกกกกกก แล้วต้องเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ในทางธรุกิจและทางบัญชีด้วย เพื่อที่เข้าใจเวลาสื่อสารกับคนอื่น ซึ่งแรก ๆ ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง 5555555 แต่เราก็ต้องมาทำความเข้าใจในแบบของเราเอง และสิ่งที่สำคัญเลย งานของเราเป็นการรับ Requirements จากพี่ ๆ หรือหัวหน้า ซึ่งแบบไม่เคยเจอเลยอ่ะ 55555 คือเราต้องตีความและทำความเข้าใจหลาย ๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่นแบบ หน้าหัวอยากได้ Dashboard Campaigning ของ Product ที่มีการแสดงสถานะของ Campaigning ที่ยัง Active หรือ Expired พี่ก็จะแนะนำว่าแต่ละ Chart ต้องได้มายังบ้าง ซึ่งก็ไม่กำหนดวิธีคิด ถ้าเรามีวิธีที่ดีกว่าเราอยากทำรูปแบบไหนหรือมีวิธีไหนที่ง่ายขึ้นก็สามารถคุยและลองทำดูได้เหมือนกัน  


ฝึกที่นี่ได้อะไรบ้าง?

Mint: สิ่งที่เราได้พัฒนาในส่วนของการทำงานเราคิดว่าเป็นด้านการคิดและวิเคราะห์ ว่าแบบข้อมูลชุดนี้เราเอามาแสดงข้อมูลอะไรได้อีกบ้าง เพื่อให้เห็นค่าโดยรวมหรือแบบเจาะจงให้ชัดเจนขึ้น ส่วนการพัฒนาด้านอื่นของเราก็จะเป็นการกล้าพูดหรือสื่อสารมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ตอนเราอยู่มหาลัยแล้วเราไม่กล้าทำเลย แบบว่าพอมาอยู่ที่นี่เราได้พูด ได้แสดงความคิดเห็น แล้วก็กล้าที่จะถามมากขึ้นมาก ๆ มีความกล้าพูดนำเสนอมากขึ้นด้วย การพูดมีความจำเป็นกับตำแหน่งนี้มากเพราะเราต้องสื่อสารกับ User ตลอด อีกอย่างคือได้เรียนรู้สังคมการทำงานจริง ๆ ที่ในมหาลัยไม่ได้สอน ก่อนหน้านี้เราจินตนาการไม่ออกเลยว่าลักษณะสังคมทำงานจะเป็นยังไง และก็ได้ทักษะการทำงานร่วมกับคนในทีม การเป็น Team player ที่ดี

Poom: ผมได้พัฒนาทั้ง Soft และ Hard skill เลย ส่วน Soft skill จะเป็นเรื่องการสื่อสารระหว่างทีม การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ปัญหา การเรียนรู้จากความผิดพลาด การจัดการเวลา การทำงานภายใต้กดดันและเวลาที่จำกัด ซึ่งการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถเรียนรู้จากหนังสือหรือในห้องเรียนได้ และในด้าน Hard skill ได้ทักษะเชิง Technical เช่น การเขียน SQL และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมืออาชีพ ซึ่งเป็นทักษะที่เป็นประโยชน์มาก ๆ กับการทำงานสาย Data แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ได้สำหรับผมคือ ผมได้เห็นภาพว่าบริษัทที่เปิดโอกาสให้คนทำงานมันเป็นยังไง และผมรู้ตัวว่าผมชอบบริษัทแบบนี้ แล้วก็ได้รับมิตรภาพและการสอนงานจากพี่ ๆ ที่เลี้ยงนักศึกษาฝึกงานดีมาก ๆ สามารถคุยปรึกษาได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องอื่น ๆ ด้วย ไม่มีเหงาเลย



Culture ของที่นี่เป็นไงบ้าง?

Mint: Culture ของที่นี่ค่อนข้าง Flexible เราทำงานกันแบบ Hybrid (แล้วแต่ Condition การทำงานของแต่ละทีมด้วย) และการแต่งตัวคือจะแต่งแบบไหนก็ได้ ไม่จำกัดเรื่องการแต่งตัว ทุกคนคุยกันแบบเป็นกันเองมาก ๆ มีอะไรสงสัยก็คือถามกันได้เลย แม้ว่าจะมีการทำงานกันคนที่ตำแหน่งสูงกว่าก็สามารถพูดคุยหรือสอบถามได้แบบเป็นกันเองสุด ๆ ส่วนตัวเราทำงานกับ C-level เวลามีปัญหาส่วนไหนหรืออยากถาม ก็คุยกับพี่เขาโดยตรงได้เลย ไม่ได้ต้องผ่านใคร ตอนแรกคิดว่าพี่เขาจะเคร่งมาก เราต้องเกร็งแน่เลย แต่จริง ๆ คือชิลมาก มีอะไรสงสัยก็ถามพี่เขาได้เลย ไม่ต้องคิดว่ามันจะเป็น Stupid question อยากถามอะไรก็ถามดีกว่าทำไปแล้วต้องกลับมาแก้ทีหลัง

Poom: ที่ Wisesight มีวัฒนธรรมที่เน้นการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองดี พนักงานทุกคนมีความกระตือรือร้นในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับเพื่อนร่วมงาน ทุกเดือนจะมี Internal training ให้พนักงานมาลงทะเบียน เพื่อเพิ่มความรู้แล้วก็ทักษะต่าง ๆ ส่วนที่เราได้อบรมก็จะมี Agile Management, Talent Dynamics และ Growth Mindset ซึ่งจะเห็นว่ามีทั้งที่เกี่ยวกับ Soft skills และ Hard skills เลย เราชอบที่เขาไม่ปิดกั้นแม้เราจะเป็นนักศึกษาฝึกงาน แถมเรียนจบได้ Participation acknowledgement ด้วยนะ


สิ่งที่ประทับใจใน Wisesight 

Mint: เราประทับใจในสังคมการทำงานนะ ทีมที่เราอยู่ด้วย คือ ทีม IT ในด้านการทำงานพี่ ๆ ทุกคนคือตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองทำ ใครไม่รู้อะไรก็ถามกันคอยช่วยกันตลอด ส่วนนอกเหนือจากงาน พี่ ๆ ชวนคุยชวนเล่นตลอด เวลามีออกอีเวนต์พี่เขาก็จะพาเราไปด้วยเพื่อไปเก็บประสบการณ์ ด้านของสวัสดิการก็มีเยอะมากที่เราชอบคือ ไอติมราคาสวัสดิการ กับกาแฟที่เปลี่ยนเมล็ดกาแฟทุกอาทิตย์ ส่วนเรื่องกิจกรรมที่ทำร่วมกันของที่นี่ เราทัน วัน We Day ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนมาร่วมเล่นกิจกรรมด้วยกัน ของรอบที่เราเข้า กิจกรรมเป็นเกมสืบคดีว่าใครฆ่าผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ทีมจัดกิจกรรมคือเล่นใหญ่ Production อลังการมาก ส่วนพนักงานคนอื่นก็สืบแบบเก็บทุกรายละเอียดสุด ๆ หลังจบกิจกรรมก็มีมื้อเย็นให้ทานร่วมกันด้วย เป็นวันที่สนุกมาก!

Poom: ผมว่าจากที่อ่านมาทุกคนคงพอเห็นแล้วว่าผมประทับใจเยอะมาก 555555555 พบประทับใจทุกประสบการณ์และความรู้จากที่นี่ ผมได้มีโอกาสทำงานกับทีมที่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญในงานของตนเอง แถมยังใจดีด้วย อยู่กันเป็นครอบครัว (ที่ไม่ Toxic นะ 5555555555) ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผมคิดว่าทีมคือส่วนสำคัญที่ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองเลย 


โปรเจคที่ได้ทำแล้วประทับใจ

Mint: โปรเจ็คที่ทำแล้วประทับใจคือ เราได้โจทย์มาให้ทำ Dashboard ทั้งหมด 5 หน้า (ซึ่งค่อย ๆ ทำนะ 55555 พี่เขาทยอยให้ ไม่ได้ให้ทีเดียว 5 หน้า) คือโจทย์ที่เราได้มาพวกพี่เขาเคยทำใน Power BI แล้วแต่มันเป็นระบบที่เราจะต้องคอยมานั่งอัพโหลดข้อมูลเองตลอด ที่เราทำคือเราต้องทำใส่ในโปรแกรม Superset ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีการลง Database แล้ว (พี่ ๆ เขาลงไว้ให้) แปลว่าข้อมูลมันอัพให้ตลอด นั่นแหละ 555555 พอพี่เขาให้ตัวอย่าง Dashboard มา เราก็ดูว่ามี Chart อะไรบ้าง เราทำ Chart อะไรเพิ่มได้อีกไหม แล้วถ้าจะทำต้องใช้ข้อมูลอะไร เพราะเราต้องเตรียม dataset เอาไว้ก่อน ประมาณนี้ เราประทับใจงานนี้เพราะมันเป็นส่วนที่พี่ ๆ เขาจะเอาไปใช้ต่อกันจริง ๆ แม้แต่พี่ C-level ก็ใช้ด้วย เลยรู้สึกภูมิใจว่าเราก็สร้าง Impact อะไรให้กับทีมได้เหมือนกันนะ

Poom: ผมเองก็ได้ทำโปรเจคคล้าย ๆ กับมิ้นต์ ซึ่งทำร่วมกับพี่ ๆ C-level แล้วก็ร่วมกับมิ้นต์ด้วย 55555555 โปรเจคที่ผมได้ร่วมทำงานจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลภายในบริษัท ออกแบบ Dashboard ให้กับทีมที่ต้องการ นำเสนอข้อมูลให้เข้าใจง่ายเพื่อใช้งานการวางแผนธรุกิจของบริษัทต่อไป ซึ่งผมว่านี่เป็นประสบการณ์ทำงานที่หาได้ยากมากก เพราะเราได้ใช้ข้อมูลจริง ๆ และการวิเคราะห์และทำ Dashboard นี้จะมีคนนำไปใช้จริง ๆ มันเป็นงานที่สำคัญและสร้าง Impact ผมได้ได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ เข้าใจมุมมองของผู้บริหารที่ต้องมองภาพใหญ่ และเข้าใจวิธีจัดการกับปัญหาต่าง ๆ มากขึ้นจากการทำโปรเจคนี้ด้วย



อยากฝากอะไรส่งท้ายถึงทุกคนที่อ่านอยู่

Mint: เรารู้สึกดีใจมากที่ได้มาฝึกงานที่นี่ เพราะที่นี่เป็นบริษัทสาย Data โดยเฉพาะ มี Data ให้ลองเล่นหลากหลาย ถ้าอยากลองด้านนี้ต้องที่ Wisesight เลย รับรองว่าถ้ามาฝึกที่นี่จะได้ประสบการณ์ที่ดีแน่นอน แบบเฉพาะทางไปเลย! สุดท้ายก็คือ สวัสดิการดี สังคมดี กิจกรรมดี คือทุกอย่างดี จบ!


Poom: การฝึกงานที่ Wisesight เป็นประสบการณ์ที่ดีมากก และที่นี่ค่อนข้างเปิดโอกาสในการเรียนรู้ให้กับเราหลายอย่างมาก ไม่เพียงแต่ได้รับความรู้ในด้านเทคนิคและทักษะทางวิชาชีพ แต่ยังได้พัฒนาทักษะและการสื่อสารและการทำงานร่วมกับคนอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ มีอะไรให้เรียนรู้ไม่สิ้นสุด พี่ ๆ ไม่ปิดกัน งานท้าทายแต่สนุกสนาน อยากให้ทุกคนที่สนใจมาลองฝึกงานที่นี่ดูครับ


Wisesight เปิดรับสมัครอยู่เรื่อย ๆ ทั้งตำแหน่งนักศึกษาฝึกงานและตำแหน่งงานประจำ สามารถติดตามตำแหน่งที่เปิดรับสมัครได้ที่ https://www.careers-page.com/wisesight  หรือติดตามกันไว้ในช่องทางอื่น ๆ เพื่อรับข่าวสารก่อนใคร

IG: @Lifeawisesight

Facebook : Wisesight

LinkedIn: Wisesight