Become a Partner | Contact |
language
| search

ทุกวันนี้การทำงานภายในองค์กรของคุณได้มีการประยุกต์ใช้เครื่องมือเหล่านี้กันบ้างหรือยัง อย่างเช่น 

ถ้าหากคำตอบของคุณคือ ‘ใช่’ เท่ากับว่าองค์กรของคุณกำลังใช้งานสิ่งที่เรียกว่า ‘เทคโนโลยีการตลาด (MarTech หรือ Marketing Technology)’ เพื่อขับเคลื่อนองค์กร แน่นอนว่า จะช่วยทำให้พนักงานทำงานได้ง่ายมากขึ้น ทั้งในฝั่งของนักการตลาดที่จะสามารถตรวจสอบ ดำเนินการ จัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์สำหรับพัฒนากลยุทธ์และวางแผน ไปจนถึงฝ่ายดูแลลูกค้าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยที่คุณภาพไม่ลดลง การทำความเข้าใจใน Marketing Technology จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในปัจจุบัน

Martech คืออะไร? 

Martech ย่อมาจาก Marketing Technology คือ เครื่องมือหรือกลุ่มของเครื่องมือ (Martech Stacks) ที่มีทั้งที่เป็นแพลตฟอร์ม โปรแกรม หรือซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยจัดการ พัฒนากลยุทธ์ ติดต่อลูกค้า วัดผลลัพธ์แคมเปญ และช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้นจากข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบผ่านเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและส่งมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น และด้วยความสามารถของ Martech ที่มีทำให้แต่ละองค์กรในปัจจุบันหันมาปรับใช้เทคโนโลยีกับการทำงานทั้งภายในและภายนอกองค์กรกันมากขึ้น

ที่มาภาพ: www.marketingcharts.com

ประโยชน์ของการใช้ Martech สำหรับธุรกิจ

ประเภทของ Marketing Technology

ในปัจจุบันนี้ Marketing Technology มีมากมาย ซึ่งสามารถจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามรูปแบบการใช้งานได้ ดังนี้

ที่มาภาพ: martechmafia.net

Marketing Analytics และ Performance Tracking & Attribution 

Martech ที่ใช้ในการวิเคราะห์การตลาดและการวัดประสิทธิภาพสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้ ดังนี้

โดย Social Media Analytics, Competitor Analytics และ Sentiment Analysis จะเป็นส่วนหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน ZOCIAL EYE ที่จัดเป็น Social Listening Tool ของทาง Wisesight ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกันเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ของเสียงบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Generative AI

Generative AI คือ ปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่งที่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ด้วยการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และใช้องค์ความรู้เหล่านั้นมาสร้างผลลัพธ์ใหม่ แต่ไม่ใช่การทำซ้ำกับของเดิมโดย Martech ในสาย Generative AI  มีด้วยกันหลายแบบทั้งแบบการสร้างงานเขียน, วิดีโอ รูปภาพ, เสียง ฯลฯ โดยที่มนุษย์ไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในการกระบวนการสร้าง ทำแค่เพียงกรอกคำสั่งเข้ามาเท่านั้น แล้ว AI จะทำงานให้เอง ยกตัวอย่าง Generative AI ที่นิยมในปัจจุบัน เช่น ChatGPT, Bard ของ Google เป็นต้น

Business/Customer Data Visualization Technologies

จะเป็นเครื่องมือ Matech ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลดิบและแสดงผลลัพธ์ให้ออกมาเป็นภาพ เช่น กราฟ แผนภาพ แผนที่ ตาราง เพื่อให้นำไปใช้ประกอบเป็นแดชบอร์ดได้ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรเห็นรายงานได้อย่างชัดเจน รวมถึงสื่อสารข้อมูลเดียวกันด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน โดยเครื่องมือ Data Visualization สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยตามความสามารถได้ดังนี้

Conversion Rate Optimization / Personalization

จะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มอัตราการปิดการขายให้ได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือที่ช่วยพัฒนาการนำเสนออีเมลหรือแอดโฆษณาแบบไดนามิก เพื่อให้คอนเทนต์ที่ลูกค้าเจอตรงกับสิ่งที่พวกเขาค้นหาอยู่ได้มากที่สุด, การปรับหน้าตาเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจที่แตกต่างกัน ฯลฯ ซึ่งในการใช้เครื่องมือกลุ่มนี้จะมีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างอัตรา Conversion ที่สูงขึ้น (Conversion Rate Optimization) หรือเพื่อสร้างความประทับใจที่ดีต่อผลิตภัณฑ์และองค์กร (Brand Loyalty) เป็นต้น

Advertising Technology

Martech ประเภทนี้จะออกแบบมาเพื่อการทำแอดโฆษณา โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ การวัดผลลัพธ์ และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ดังนี้

Visitor Identification Software

เป็น Martech ที่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการยืนยันตัวตนของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Website Visitor) เบื้องต้น เช่น การแปลง IP address ไปเป็นเมืองและประเทศ, การนำ IP Address นั้น ๆ ไป เพิ่มคุณภาพ เพื่อให้ข้อมูลระบุได้ว่าผู้ใช้ที่เข้ามาเว็บไซต์มาจากบริษัท หรือ สถาบันการศึกษาไหน ในเชิงลึกได้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น

Affiliate Marketing 

เป็นกลุ่ม Martech ที่ใช้สำหรับจ่ายเงินให้กับบุคคลหรือบริษัทอื่นที่เข้ามาช่วยโปรโมตสินค้าและบริการ โดยธุรกิจจะจ่ายให้เป็น % ของราคาสินค้า โดยบุคคลหรือบริษัทอื่นจะต้องโปรโมตสินค้าให้ในช่องทางของตนเอง  ไม่ว่าจะเป็น บล็อก โซเชียลมีเดีย และใช้ลิงก์ที่ได้รับจากเครื่องมือ Affiliate Marketing ที่ทำขึ้นมาให้ไม่ซ้ำกันไปใช้งาน ทำให้เจ้าของสินค้าสามารถติดตามการซื้อ-ขายว่าเกิดจากลิงก์ของใครได้ และแบ่ง % ยอดขายให้ได้อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่าง Martech ด้านนี้ เช่น TikTok Affiliate Marketing เป็นต้น

Content Marketing Tools

Content Marketing Tools เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำ Content Marketing สามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อย ๆ ได้ดังนี้

SEO Tool

เป็น Martech ที่ใช้สำหรับการทำ Search Engine Optimization รวมไปถึงการโฆษณาบนการค้นหา (Google Ads) ซึ่งเครื่องมือกลุ่มนี้แบ่งออกได้เป็นหลายประเภทย่อย ๆ เช่น

Social Media Marketing

เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียสะดวกยิ่งขึ้น โดยในกลุ่มนี้ยังแบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ได้อีก เช่น

CRM, CDP และ Marketing Automation

เทรนด์การใช้ Martech ในปัจจุบันและอนาคต

เรียนรู้ประเภทของ Martech กันไปแล้ว มาดูเทรนด์การใช้งาน Martech ในปัจจุบันและในอนาคตกันบ้างว่าจะมีแนวโน้มการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง

เทรนด์การใช้งาน Martech ในปัจจุบัน

เทรนด์การใช้งาน Martech ในอนาคต

วิธีการเลือกใช้ Martech อย่างเหมาะสมสำหรับธุรกิจ

ในเมื่อเทรนด์การใช้งาน Martech เติบโตขึ้นเช่นนี้ ธุรกิจอาจต้องปรับตัวและเรียนรู้วิธีการเลือกใช้ Martech อย่างเหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปตามกระแสของเทคโนโลยีได้อย่างเท่าทัน ดังนี้

เนื่องจาก Martech นั้นมีมากมายหลายประเภทและยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้ รวมถึงบางเครื่องมือมีความสามารถที่ครบถ้วนอยู่แล้วจึงอาจไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องมือแยกหลายเจ้า ดังนั้น ธุรกิจจึงควรกำหนดเป้าหมายในการใช้งาน Martech เพื่อให้รู้ว่าเครื่องมือไหนเหมาะสมกับบริษัทตัวเอง เช่น ต้องการที่จะจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือ Martech ที่เลือกก็ควรจะเป็นประเภท CRM เป็นหลัก

สำรวจและประเมินว่าในปัจจุบันนี้ธุรกิจมีเครื่องมือ Martech อะไรที่ใช้งานอยู่บ้าง พร้อมพิจารณาว่าเครื่องมือเหล่านั้นเหมาะสมกับระบบการทำงานที่คุณต้องการจะสร้างหรือไม่ ดูว่าเครื่องมือแต่ละตัวสามารถแก้ปัญหาอะไรให้กับธุรกิจของคุณได้บ้าง นอกจากนี้ควรตรวจสอบถึงฟังก์ชัน, วิธีการใช้งาน, ความน่าเชื่อถือ, การบูรณาการเครื่องมือ, รูปแบบการใช้งานที่ต้องใช้แบบแยกส่วนตามแผนกหรือสามารถใช้ได้ทั้งองค์กร เพื่อที่จะได้วางแผนการจัดการระบบ Martech เดิมว่าควรยกเลิกการใช้งาน หรือควรที่จะเสริมเครื่องมือไหนเข้ามาบ้าง

ทำการพิจารณางบประมาณสำหรับเครื่องมือ Martech ที่ต้องการจะลงทุนนำมาใช้ในองค์กร โดยพิจารณาทั้งค่าใช้จ่ายแรกและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระยะยาว เช่น ค่าใบอนุญาต ค่าดำเนินการ ค่าฝึกอบรมการใช้งาน ค่าเซอร์วิส ฯลฯ ซึ่งการกำหนดงบประมาณก่อนจะช่วยทำให้สามารถมองหาโซลูชันของ Martech ที่เข้ากับองค์กรของคุณได้ดีและรวดเร็วมากขึ้น

ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนของการพิจารณารายละเอียด คุณสมบัติ และฟังก์ชันของ Martech ที่คุณสนใจทีละส่วน โดยดูว่า Martech นั้นๆ ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมาก-น้อยแค่ไหน เช่น คุณมีความต้องการเครื่องมือที่สามารถทำ Marketing Automation ทางอีเมลพร้อมเชื่อมต่อเข้ากับ CRM ได้ด้วย ก็ต้องเลือกหาเครื่องมือที่มีฟีเจอร์และฟังก์ชันที่ครอบคลุมเรื่องเหล่านี้เอาไว้ด้วย

โดยดูว่า Martech ที่กำลังจะเลือกใช้สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตและความต้องการที่กำลังเปลี่ยนไปของคุณหรือไม่ รวมถึงดูด้วยว่าสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือและระบบอื่นที่คุณอาจใช้ในอนาคตได้หรือไม่ เช่น สามารถทำ API Integration ได้หรือไม่ เป็นต้น

เลือกใช้ Martech ที่มีความน่าเชื่อถือ มีผู้ใช้งานจริง ได้ทดลองใช้หรือมีการสาธิตวิธีการใช้งานให้ดู รวมถึงมีทีมดูแลลูกค้าโดยเฉพาะเพื่อการันตีว่าจะสามารถปรึกษาได้หากมีปัญหาระหว่างการใช้งาน 

พิจารณาอัตราผลตอบแทนที่เป็นไปได้ (ROI) และค่าความคุ้มค่าในระยะยาวที่ Martech จะช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้นว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน

ยกตัวอย่าง Martech จาก Wisesight เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่าง ๆ

สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ Martech ในการบริหารหรือจัดการธุรกิจ ลองดูตัวอย่างการใช้ Martech เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่าง ๆ กันดีกว่า ซึ่ง Martech ตัวอย่างนี้จะเป็นฟีเจอร์หลักของ Martech จาก Wisesight ยกตัวอย่างเช่น

ZOCIAL EYE : Martech สำหรับทำ Social Listening

การทำ Social Listening จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube, TikTok และอื่นๆ ด้วยเครื่องมือ Martech ที่สามารถใช้หาข้อมูลเชิงลึก (Insight) เฝ้าดูความเคลื่อนไหว วัดผลลัพธ์ของแคมเปญบนโซเชียลมีเดีย  ไปจนถึงใช้วิเคราะห์คู่แข่งได้ ยกตัวอย่างฟีเจอร์ที่มีใน ZOCIAL EYE เช่น 

Logo Detection จะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ ZOCIAL EYE ใช้สำหรับตรวจจับโลโก้ (Logo) บนภาพที่ปรากฏอยู่บนโซเชียลมีเดีย ช่วยให้แบรนด์จึงสามารถเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตนเองได้อย่างครอบคลุมเพื่อการวิเคราะห์ผลที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น 

ZOCIAL EYE เป็น Martech ที่ใช้หาอินไซต์จากเสียงของผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำได้ในทุกอุตสาหกรรมที่สนใจ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าผ่านเสียงบน Social Listening ทำให้ได้ข้อมูลมาปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจให้เหมาะสม โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเดาใจผู้บริโภค ลองดูตัวอย่าง Customer Insight ที่ทีม RESEARCH ของ WISESIGHT ใช้ ZOCIAL EYE ในการวิเคราะห์ข้อมูลจนมาออกเป็นรีพอร์ตเชิงลึกได้ที่ https://store.wisesight.com/all-products/

สำหรับการใช้ Martech อย่าง ZOCIAL EYE ในการทำ Competitor Analysis สามารถใช้ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Comparison View ที่ใช้เปรียบเทียบเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดียตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้ จึงสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบคู่แข่ง (Competitive Analysis) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นรูปแบบการแข่งขันกันระหว่างแบรนด์ มองเห็นความเคลื่อนไหวของแบรนด์คู่แข่งว่ามีการใช้อินฟลูเอนเซอร์คนไหนบ้าง หรือผู้บริโภคตอบรับอย่างไรบ้างด้วยรูปแบบของข้อมูลในมุมมองที่ต่างกันได้ภายในหน้าเดียว

ZOCIAL EYE ช่วยในการสำรวจ เก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจเข้าใจที่มาของพฤติกรรม ความคิด ความเชื่อ เพื่อนำมาวางกลยุทธ์การตลาด หรือใช้หาข้อมูลในเชิงพฤติกรรมและภาพใหญ่ของผู้บริโภคว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง เพื่อที่จะได้วางแผนรับมือได้ในอนาคตด้วย

Sentiment Analysis จะเป็นข้อมูลของประเภท ‘เสียง’ ของผู้บริโภค เช่น เป็นเสียงเชิงบวกหรือเชิงลบ ฯลฯ ซึ่งใช้ดูได้ว่า ผู้บริโภครู้สึกอย่างไรกับแบรนด์หรือแคมเปญการตลาดที่ทำอยู่ หรือจะใช้ดูวิธีการทำการตลาดของคู่แข่งว่าได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์การทำการตลาดของแบรนด์ต่อไปได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

WARROOM : Martech สำหรับทำ CRM

การทำ CRM (Customer Relationship Management) จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเครื่องมือ Martech ในการเก็บรวบรวมข้อมูล  จัดการข้อมูลลูกค้า รับเรื่องและตอบคำถามของลูกค้า และดึงข้อมูลที่มีประโยชน์มาใช้บริหารความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและลูกค้าจากหลากหลายช่องทางการติดต่อสื่อสารมาไว้ในที่เดียว และนี่คือฟีเจอร์หลักของ WARROOM ที่ช่วยทำให้เห็นว่า Martech จะช่วยดูแลลูกค้าของธุรกิจได้อย่างไร

ทีมงานที่ใช้ WARROOM ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิด SocialMedia จากหลาย platform เพราะสามารถทำงานพร้อมกันได้หลายระบบภายในหน้าจอเดียว ทำให้ดูแลลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและลดความผิดพลาดในการทำเคสหลุดได้อีกด้วย

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยดึงเคสรวมไว้ที่เดียวพร้อมกับจัดการมอบหมายเคสให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลตามความเหมาะสม พร้อมฟีเจอร์ปฏิเสธเคสในครั้งเดียวและปฏิเสธเคสแบบอัตโนมัติช่วยลดเวลาจัดการเคสได้มากยิ่งขึ้น

สามารถตั้งค่าการติดตามได้ตามคำค้นหา (Keyword) ที่กำหนดไว้ เช่น ชื่อแบรนด์, ใส่คำที่บ่งบอกถึงการรีวิว เช่น รีวิว, แย่, ดี ฯลฯ เพื่อให้ทีมงานเห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคพูดถึงสินค้าและบริการในคำที่กำหนดว่าอย่างไรบ้าง

WARROOM สามารถกำหนดบทบาทของตัวแทนต่าง ๆ ออกเป็นหลายระดับ และเลือกแยกได้ด้วยว่าจะจำกัดการเข้าถึงในรูปแบบใดบ้าง เช่น จำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล (Specific Subject Permission), จำกัดสิทธิ์ในการใช้งานบัญชี (Specific Account Permission), จำกัดสิทธิ์ในการจัดการเคส (Specific Action Permission)

WARROOM มีระบบการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านช่องทางไลน์ (Line) และอีเมล (Email) ช่วยทำให้ทีมงานสามารถตอบและแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องให้ลูกค้ารอนาน

WARROOM เป็น Martech ที่เชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อ MINI APP หรือเว็บแอปพลิเคชัน เข้ามาใน WARROOM ได้อีกด้วย

แนะนำ Martech อื่นๆ จาก Wisesight สำหรับธุรกิจ

COMMAND CENTER

COMMAND CENTER เป็น Martech ในด้าน Data Visualization ที่ใช้จัดการและนำเสนอข้อมูลสำหรับองค์กร โดยแสดงผลข้อมูลบนโลกโซเชียลขึ้นจอ LED ขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ (Real-Time Social Monitoring Display) ทำให้องค์กรเห็นข้อมูลอุตสาหกรรมในภาพรวม และเห็นภาพรวมของข้อมูลแคมเปญที่จัดทำขึ้นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังใช้งานร่วมกับเครื่องมือและบริการจาก Wisesight เช่น ZOCIAL EYE, DATA CONSULTING, RESEARCH ได้

INFLUENCER DIRECTORY

INFLUENCER DIRECTORY เป็น Martech ที่ใช้สำหรับการทำ Influencer Marketing มีประโยชน์ในด้านการช่วยหา Influencer รีวิวสินค้า โปรโมตแบรนด์ หรือหาผู้มีอิทธิพลจากสื่อโซเชียลมีเดียแยกเฉพาะช่องทางได้ เพื่อให้แบรนด์เจอ Influencer ที่โดดเด่นจากช่องทางนั้น ๆ และนำมาใช้งานเพื่อสร้างผลลัพธ์ได้จริง

นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาข้อมูลเชิงลึกของ Influencer แบบละเอียดจากการกรองข้อมูลต่าง ๆ เช่น ยอด Engagement/Post, Follower, Influencer Score เป็นต้น พร้อมกับค้นหา Influencer ตามหมวดหมู่ (Cluster) ของอินฟลูเอนเซอร์ที่ Wisesight แบ่งออกเป็น 38 หมวดหมู่ได้ด้วย

Wisesight Omnichannel Solutions (OCS)

Wisesight Omnichannel Solutions (OCS) คือ โซลูชันที่รวมทุก Martech สำคัญที่ช่วยสร้างระบบ Omnichannel ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจ ออกแบบมาโดยคนไทยที่เข้าใจคนไทยได้ดีที่สุด พร้อมช่วยให้ทุกธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานช่องทางดิจิทัลแบบไทยสไตล์ในทุกแง่มุม (Insightful Overview) เริ่มตั้งแต่พฤติกรรมการหาข้อมูลไปจนถึงขั้นเกิดความภักดีกับสินค้า (Brand Loyalty) เพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ และยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าให้มีมากขึ้นได้นั่นเอง

Martech เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยมีประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการตลาด, ช่วยปรับปรุงการติดตามผลการตลาด, เพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ และลดความเสี่ยง โดยมีเครื่องมือ Martech มีหลากหลาย ได้แก่ Logo Detection, Consumer / Customer Insight, Sentiment Analysis, Competitor Analysis, Market Research, Social Media Analytics ฯลฯ ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

//